KEY
POINTS
โลกของการค้าขายได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งบนเว็บไซต์ E-commerce, โซเชียลมีเดีย หรือการไลฟ์สด (Live Commerce) ได้กลายเป็นเรื่องปกติ
แต่ผู้ประกอบการจำนวนมากอาจยังไม่ทราบว่า ธุรกิจเหล่านี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ "ธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง" ซึ่งมีรายละเอียดและข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้เข้าใจการปรับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะระหว่าง "การขายตรง" และ "การตลาดแบบตรง" ให้ชัดเจนเสียก่อน
ธุรกิจขายตรง (Direct Selling)
ตลาดแบบตรง (Direct Marketing)
ดังนั้น การขายของออนไลน์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น E-commerce, การขายผ่าน Facebook, Instagram, LINE หรือการไลฟ์สด หากมีลักษณะเป็นระบบตะกร้า หรือระบบ F สินค้า ก็จัดอยู่ในนิยามของ "ตลาดแบบตรง" เพราะเป็นการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์สื่อสารไปยังผู้บริโภคจำนวนมากโดยตรง ไม่ใช่การพบปะกันแบบตัวต่อตัว
ไม่ใช่ผู้ขายออนไลน์ทุกคนที่ต้องจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กฎหมายได้กำหนดเกณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องจดทะเบียนไว้ดังนี้
บุคคลธรรมดา: ที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการออนไลน์เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี
นิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วน, บริษัท): ที่ประกอบธุรกิจขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนโดยไม่มีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำ
หากเข้าข่ายดังกล่าว จะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงกับ สคบ. ให้เรียบร้อย มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมายสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายต้องจดทะเบียนแต่ไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ได้กำหนดบทลงโทษไว้อย่างชัดเจน คือ ผู้ประกอบธุรกิจที่ประกอบธุรกิจ (ตลาดแบบตรง) ก่อนได้รับจดทะเบียน ให้มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
ผู้สนใจหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการจดทะเบียน สามารถยื่นคำขอและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือที่เว็บไซต์ www.ocpb.go.th