‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ นำทัพ CP AXTRA ชู Zero Food Waste โมเดลธุรกิจยั่งยืน

08 ต.ค. 2568 | 09:24 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2568 | 11:05 น.

‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ ประกาศจุดยืน CP AXTRA ชู Zero Food Waste ใส่นวัตกรรม แปลงขยะอาหารตั้งเป้าลด 1.5 หมื่นตัน ปูทางธุรกิจยั่งยืน ตามโมเดลสหประชาชาติ

KEY

POINTS

  • ศุภชัย เจียรวนนท์ นำซีพี แอ็กซ์ตร้า (แม็คโคร-โลตัส) ขับเคลื่อนนโยบาย Zero Food Waste อย่างจริงจัง โดยมองว่าปัญหาขยะอาหารเป็นวิกฤตสำคัญของโลกและเป็นส่วนหนึ่งของโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน
  • ดำเนินโครงการ “ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Waste” โดยตั้งเป้าหมายลดขยะอาหารให้เป็นศูนย์ (Zero Food Waste) ภายในปี 2030 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
  • เปลี่ยนขยะอาหารให้เกิดมูลค่าผ่านนวัตกรรม เช่น แปรรูปเป็นโปรตีนจากแมลง (BSF) และส่งต่ออาหารส่วนเกินให้ผู้ขาดแคลน โดยตั้งเป้าลดขยะอาหาร 1.5 หมื่นตันในปีนี้

‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ ประกาศจุดยืน CP AXTRA  ชู Zero Food Waste  ใส่นวัตกรรม แปลงขยะอาหารตั้งเป้าลด 1.5 หมื่นตัน ปูทางธุรกิจยั่งยืน ตามโมเดลสหประชาชาติ

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัท  เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวปาฐกถาในงาน “Thailand Zero Food Waste Forum 2025” รวมพลัง ลดทิ้ง สร้างค่า เปลี่ยนความท้าทายเป็นโอกาส ในหัวข้อ แนวทางการขับเคลื่อนความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ 

‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ นำทัพ CP AXTRA  ชู Zero Food Waste โมเดลธุรกิจยั่งยืน

สาระสำคัญระบุว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) และซีพีแอ็กซ์ตร้า มีนโยบายและให้ความสำคัญในเรื่องด้าน Food waste หรือ ขยะอาหาร ซึ่งมองว่าเรื่องนี้จะเป็นอีกปัญหาใหญ่ของโลก ซึ่ง 1 ใน 3 ของอาหารของโลกได้ กลายเป็นขยะอาหาร 1,050 ล้านตันต่อปีเทียบเท่าอาหารคน 2,800 ล้านคนต่อปีและมีก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 8% ในขยะทั้งหมด หรือคิดเป็น 4,500 ตันคาร์บอนมากกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยรวมของอุตสาหกรรมการบิน สวนทางกับจำนวนประชากรโลกยังคงประสบกับปัญหาความอดอยาก หิวโหยถึง 800 ล้านคน คิดเป็น 10%  ของจำนวนประชากรโลก

ทั้งนี้กระบวนการของการเกิดอาหารขยะ ภาคเอกชนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ส่วนหนึ่งทำธุรกิจในเรื่องค้าปลีก โลตัส และแม็คโคร ซึ่งเป็นปลายทางก่อนที่จะไปถึงครัวเรือน และการที่เกิดอาหารขยะขึ้นในทุกวันเป็นอาหารที่ตัดจ่ายหรือหมดอายุหรือกำลังจะหมดอายุ โดยปกติจะถูกรวบรวมไปในที่ฝังกลบหรือมีการกำจัด แต่ว่าโดยวิธีต่างๆ ในภาพรวมก็เป็นขยะอยู่ดี และในบางกรณีอาจจะเห็นข่าวถึงขั้นที่ว่ามีการทิ้งขยะลงในทะเล เป็นต้น

“ขยะอาหาร” ไม่ใช่แค่เพียงมลพิษ แต่ยังทำให้เป็นแหล่งเพาะสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ตลอดจนเชื้อโรค หากเปรียบเทียบบ้านเมืองเหมือนในคอนโดมิเนียมหากไม่สามารถรักษาความสะอาดเอาไว้ได้ จะทำให้ไม่น่าอยู่ หรือน่ามาเยือนและในความจริงเป็นอาหารขยะ ไม่ใช่มาจากการค้าปลีกอย่างเดียว

แต่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานกระบวนการผลิต ตั้งผลผลิตด้านอาหาร และยังไม่นับผลผลิตสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นทาง จากแหล่งผลิตเลย เช่น ฤดูกาลผลิตผลไม้ในแต่ละปี สินค้าที่ตกเกรด ส่วนใหญ่จะกลายเป็นขยะ ดังนั้นการเพิ่มมูลค่าของอาหารขยะ ถ้าเริ่มทำตั้งแต่ต้นน้ำยังปลายน้ำหรือการบริโภคอย่างมีความพอดี รวมที่บ้านด้วย สิ่งเหล่านี้อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการที่จะลดอาหารขยะ

‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ นำทัพ CP AXTRA  ชู Zero Food Waste โมเดลธุรกิจยั่งยืน

แต่ทั้งกระบวนการนี้เป็นสิ่งที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ควรร่วมมือกัน เพราะถ้าภาคเอกชนประสานมือได้ ภายใต้นโยบายภาครัฐ และร่วมมือกับภาครัฐด้วย ตนเชื่อว่าเราจะสามารถลดกองขยะอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนการนำเอาขยะอาหารก่อนที่จะหมดสภาพมาทำเป็นอาหารหรือของที่เป็นมูลค่าสูง ตลอดจนส่วนเกินของอาหารที่เราผลิตตั้งแต่ต้นน้ำไปขยายผลหรือช่วยเหลือประเทศที่มีความขาดแคลนหรืออดอยากทางด้านอาหารได้

ปัจจุบันในเรื่องของนวัตกรรมจะเป็นเรื่องใหญ่ อย่างกรณีของซีพี แอ็กซ์ตร้า ผู้ดำเนินธุรกิจ แม็คโคร-โลตัส ก็มีการลดปริมาณอาหารขยะอย่างจริงจัง และมีการนำเศษอาหารไปให้แมลงบีเอสเอฟ (BSF)  เพื่อที่จะสร้างแมลงบีเอสเอฟขึ้น เป็นอาหารด้านโปรตีน สามารถนำไปทำอาหารได้หลายรูปแบบ รวมถึงอาหารสัตว์ด้วย ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าจะลดถึง 1.5 หมื่นตัน และล่าสุดผ่านมา 8 เดือนสามารถทำได้ 1 หมื่นตันแล้ว และจะทำอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้หวังว่าในทุกปีจะสามารถลดอาหารขยะได้ และยังสามารถเพิ่มประโยชน์ในด้านต่างๆในการเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย ซึ่งยังไม่รวมต้นน้ำก็คือผู้เพาะปลูกหรือผู้เลี้ยง และต่อไปในอนาคตจะมีความร่วมมือกับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อโยงไปถึงทางต้นน้ำ เพื่อที่จะให้ทุกส่วนให้เกิดอาหารขยะได้น้อยที่สุด หรือถ้ามีส่วนเกินก็สามารถไปทำประโยชน์หรือสร้างมูลค่าให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด และในอนาคตคาดว่าจะดำเนินการได้มากกว่านี้ ที่สำคัญอาหารขยะ สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาดได้อีก เช่น ในเรื่องของไบโอแมส เป็นต้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้ไม่ต้องไปสู่กระบวนการฝังกลบ สู่อนาคตที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมากมาย

เครือเจริญโภคภัณฑ์ฯ หากมองดูในภาพรวมจะมีอาหารขยะเคยสูงถึง 54,000ตันต่อปี หากเทียบกับภาพรวมของประเทศไทยมีขยะร่วม 6 ล้านตันต่อปี ซึ่งใน54,000 ตันได้มีการขับเคลื่อนในการลดขยะอาหารมาตลอดระยะเวลา 5 ปี จะเห็นว่าอาหารขยะลดลงมาเรื่อยๆ โดยเฉลี่ย 24% หรือประมาณ 41,513 ตัน

‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ นำทัพ CP AXTRA  ชู Zero Food Waste โมเดลธุรกิจยั่งยืน

อย่างไรก็ตามหากไม่มีการบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าวนี้ เมื่อธุรกิจมีการเติบโตขึ้น อาหารขยะจะขยับเพิ่มเช่นเดียวกัน แต่ถ้ามีบริหารจัดการและเดินไปตามเป้าหมายที่จะทำให้อาหารขยะเป็นศูนย์ ซึ่งไม่ได้ทำในเรื่องอาหารขยะเพียงอย่างเดียว รวมไปถึงขยะด้านอื่นๆด้วย เพื่อไปสู่เป้าหมายเป็นการปล่อยก๊าซรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)ของเครือฯ ภายในปี 2573ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ข้อ 12.3 ของสหประชาชาติ

นายศุภชัย กล่าวในตอนท้ายว่า อาหารขยะ  เป็นเรื่องสำคัญนอกจากก๊าซเรือนกระจกแล้วยังมีเรื่องของกลิ่น และจุดเพาะบ่มเชื้อโรค รวมทั้งก๊าซมีเทนด้วย ผลลัพธ์มากกว่าอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกรวมกันอีกในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่ทิ้งอาหาร ไม่ได้เพียงสูญเสียทรัพยากรแต่ยังทำร้ายโลกของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว

สำหรับประเทศไทย ในฐานะที่เป็นครัวของโลกและมีศักยภาพสูงในด้านของการผลิตอาหารและเป็นประเทศที่มีการผลิตขยะอาหารมากกว่า 6 ล้านตันต่อปี นับเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน นี่คือเหตุผลที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชนจะมาร่วมกันขับเคลื่อนและเคลื่อนไหวให้เกิดการแก้ปัญหาเหล่านี้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ นำทัพ CP AXTRA  ชู Zero Food Waste โมเดลธุรกิจยั่งยืน

ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ตั้งเป้าหมายที่จะให้เป็น Zero Food Waste ผ่านโครงการ “ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Waste” ให้ได้ในปี 2030 มีการทำงานอย่างจริงจังในเรื่องการบริหารจัดการของเสียและนำกลับมาใช้ประโยชน์ เช่น ส่งอาหารส่วนเกินที่ยังบริโภคได้ ส่งต่อให้กับผู้ขาดแคลนทั่วประเทศและแปรรูปของเหลือ เช่นน้ำหมักชีวภาพ และโปรตีนจากแมลง บีเอสเอฟ ใช้นวัตกรรมบริหารสต็อกสินค้าลดการสูญเสีย และสร้างความร่วมมือกับมูลนิธิและองค์กร เพื่อขยายผลสู่ชุมชน

นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร ซีพี แอ็กซ์ตร้า กล่าวว่า “โครงการ ‘ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Waste’ ไม่ใช่เพียงแนวคิด แต่เป็นการลงมือทำจริงในทุกสาขาของแม็คโครและโลตัส เรามุ่งสร้างZero Waste Store ทั่วประเทศ พร้อมขยายแนวทางนี้สู่ชุมชนรอบข้าง ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมไร้ขยะที่เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”

ภายในปี 2568 โครงการ “ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Waste” สามารถลดปริมาณขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบได้กว่า 15,000 ตัน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกลับคืนสู่ชุมชนและเกษตรกรไทยกว่า 76 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพของการเปลี่ยน “ขยะ” ให้เป็น “คุณค่า” ได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมต่อยอดสู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สนับสนุนเกษตรกรและ SME ผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการปล่อยคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความยั่งยืน

“เราเชื่อมั่นว่าการจัดการขยะอาหารอย่างเป็นระบบ ไม่เพียงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของผู้คน ทาง ซีพี แอ็กซ์ตร้า จึงเดินหน้าสานต่อพันธกิจ “ความยั่งยืนเป็นรากแก้วขององค์กร” เพื่อร่วมเติบโตไปพร้อมกับสังคมอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางศิริพร กล่าวเพิ่มเติม

สิ่งเหล่านี้สะท้อนโอกาสใหม่ของเศรษฐกิจที่สร้างงาน สร้างรายได้และสร้างคุณค่าให้กับสังคม รวมถึงการสร้างระบบติดตาม โปร่งใส่ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนายั่งยืน โดยมีการเทียบเคียงเป้าหมายกับสหประชาชาติ อย่างไรก็ดีในเวทีนี้ไม่ใช่เพียงแค่งานสัมมนาเท่านั้น ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลัง อนาคต ในการที่จะให้ประเทศไทยก้าวสู่ Zero Food Waste อย่างยั่งยืนที่ให้ทุกองค์กรร่วมกันมีบทบาทและมีส่วนร่วม