'ศุภชัย' ถอนแจ้งความ 'ภูมิธรรม' รักษาการนายกฯ ม.157 ปมยื่นยุบสภา 

04 ก.ย. 2568 | 04:20 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2568 | 04:22 น.

'ศุภชัย' ปธ.คณะทำงานฝ่ายกฎหมายภูมิใจไทย ถอนแจ้งความ 'ภูมิธรรม' รักษาการนายกฯ ม.157 ปมยื่นยุบสภา แจง 'ประธานสภาฯ' บรรจุวาระเลือกนายกฯแล้ว ถือว่าความพยายามยุบสภายุติ 

KEY

POINTS

  • นายศุภชัย ใจสมุทร ได้ถอนแจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี
  • คดีดังกล่าวเป็นข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 กรณีความพยายามที่จะยื่นยุบสภา
  • เหตุผลในการถอนแจ้งความคือประธานสภาฯ ได้บรรจุวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทำให้ความพยายามยุบสภายุติลง และต้องการให้ประเทศเดินหน้าด้วยความสามัคคี

4 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางเข้าแจ้งความ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิตนั้น 

ล่าสุด นายศุภชัย ใจสมุทร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Suphachai Jaismut" ระบุว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุระเบียบวาระให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว นั่นหมายความว่าความพยายามที่จะยื่นยุบสภาอีกได้ยุติลง ซึ่งประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้เป็นไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ผมว่า หลายท่านเห็นการเมืองของเมืองไทยมาก็จะพบว่า ในบางสถานการณ์ ก็สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ความจริงที่มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือแต่ละฝ่ายที่อยู่คนละข้างกันล้วนแล้วแต่รู้จักคุ้นเคยรักใคร่ เป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกัน บางครั้งเคยอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้วสถานการณ์ก็ผลักดันให้ไปอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม

ชีวิตการเมืองของผมก็เป็นเช่นนี้ เพราะการต่อสู้ที่ว่านี้ปฎิเสธไม่ได้ว่าคือสงครามช่วงชิงอำนาจ ซึ่งบางคราวก็ชนะบางครั้งก็แพ้ ผู้ใหญ่ที่รักเคารพของผมเคยให้คำแนะนำว่าหากแพ้ก็ให้หมอบให้ราบ รอเวลา และเมื่อชนะก็ไม่ซ้ำเติมฝ่ายที่แพ้ ซึ่งผมก็ยึดถือปฏิบัติแบบนี้มา จบถือว่าจบ ไม่มีอาฆาตหรือคิดแก้แค้นเพราะที่สุดแล้วคนทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์เป้าหมายของเราก็คือประโยชน์สุขของประเทศชาติประชาชน ซึ่งแน่นอนที่สุดประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ก็ด้วยความสามัคคี

ผมจึงตัดสินใจว่า ผมไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีอาญากับนายภูมิธรรม เวชยชัย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป และจะดำเนินการถอนคำร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน

"บ้านเมืองไทยสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้โดยดี เพราะว่าจิตใจสามัคคีและแสดงออกซึ่งสามัคคี ถ้าตราบใด เรารักษาความสามัคคีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันไว้ได้ เราก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุขตราบนั้น" ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะประชาชนจังหวัดราชบุรี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531