ซีพี–อัลเตอร์วิมขับเคลื่อนธุรกิจลดคาร์บอนมุ่งอนาคตยั่งยืน  

25 ก.ย. 2568 | 11:45 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2568 | 11:45 น.

ซีพี–อัลเตอร์วิม ขึ้นเวที ‘Decarbonization for Smart Industry’ เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจลดคาร์บอน สู่อนาคตยั่งยืน

KEY

POINTS

  • ซีพีและอัลเตอร์วิมร่วมเวทีเสวนา "Decarbonization for Smart Industry" เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนผ่านการลดคาร์บอน
  • เครือซีพีตั้งเป้าหมาย Net Zero โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทุกห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • อัลเตอร์วิมชี้ว่าอุตสาหกรรมใหม่ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสีเขียว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดคาร์บอนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนและกลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ เลิศสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทอัลเตอร์วิม จำกัด ร่วมเวทีเสวนา “Decarbonization for Smart Industry: ปรับธุรกิจ ลดคาร์บอน สู่อนาคตที่ยั่งยืน” ภายใต้ธีม 3S: Smart, Safe, Sustainable – Technologies towards Tomorrow จัดโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) และสมาคมวิศวกรรมเคมีและเคมีประยุกต์แห่งประเทศไทย

งานนี้มีผู้ร่วมเสวนาอีกหลายท่าน ได้แก่ นายฉัตรภพ พรธรรม ผู้จัดการฝ่ายความยั่งยืน บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด และ ดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) 

ภายในงานยังมีการจัดแสดง เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และยั่งยืน เพื่อสู่วันพรุ่งนี้ ซึ่งองค์กรของวิทยากรทั้ง 3 ท่านเคยได้รับรางวัล Thailand–Japan Decarbonization Awards 2025 (TJDA)  รางวัลเชิดชูองค์กรที่มีนวัตกรรมในการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม 

ซีพี–อัลเตอร์วิมขับเคลื่อนธุรกิจลดคาร์บอนมุ่งอนาคตยั่งยืน  

ซึ่งก่อกำเนิดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. ร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับจากรางวัลจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม บจก.เหล็กสยามยามาโตะ ได้รับรางวัลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและบจก. อัลเตอร์วิมได้รับรางวัลจากกระทรวงพลังงาน

ดร.ธีระพลกล่าวว่า เครือ CP ตั้งเป้า Net Zero ตั้งแต่ปี 2020 และนำ 5Transformation ขับเคลื่อนองค์กร ได้แก่ Transparency, Market Mechanism, Leadership & Talents, Empowerment และ Innovation & Technology เพื่อเร่งลดคาร์บอนในทุกห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI, Sensor, Big Data, Traceability

,Cloud, IoT, 5G, Cybersecurity, Robotics & Automation ถูกนำมาใช้ในธุรกิจเกษตร ต้นน้ำ–กลางน้ำ–ปลายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซ และยกระดับความปลอดภัยของอุตสาหกรรม ทั้งยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาในโรงงานอัจฉริยะ

ซีพี–อัลเตอร์วิมขับเคลื่อนธุรกิจลดคาร์บอนมุ่งอนาคตยั่งยืน  

 ดร.ธีระพล สรุปวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมอัจฉริยะยั่งยืนในอีก 10 ปี ว่าเป็นการผสาน ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธุรกิจ และนวัตกรรม พร้อมเน้นว่าองค์กรควรเริ่ม จากการวัดผลและตั้งเป้าหมายวันนี้ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

ด้านนายสมบูรณ์ เลิศสุวรรณโรจน์ CEO บริษัท อัลเตอร์วิม ระบุว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมใหม่ให้ความสำคัญกับ Decarbonization โดยเฉพาะ Scope 2 เช่น ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่สามารถใช้ พลังงานสีเขียวอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นวิวัฒนาการสำคัญเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการบริหารทรัพยากรและกระบวนการผลิต ประเทศไทยมีความได้เปรียบ

นอกจากนี้ เมื่อพลังงานสีเขียวพร้อมใช้งาน ผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์ทั้งด้าน Decarbonization และการลงทุน โจทย์สำคัญคือการสร้าง ปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนพลังงานสีเขียว เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมให้มีความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นอุตสาหกรรมไทยต้องเปลี่ยนจากพลังงานดั้งเดิมไปสู่ พลังงานสะอาด โดยการใช้พลังงานยั่งยืนช่วยให้ธุรกิจมีความปลอดภัยทนทานต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถปรับตัวสู่โลกยุคหน้าได้อย่างมั่นคง