เพราะที่นี่ ไข่ไก่ไม่ใช่แค่ของกินบนจานอาหารกลางวัน แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่สอน เป็นบทเรียนนอกตำรา ที่ทำให้รู้จักความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม และลงมือทำจริงตั้งแต่ยังเด็ก
"น้องปันปัน-กิตติพัศ ถิ่นวงค์เกลอ” นักเรียนชั้น ป.6 กับเพื่อน ๆ นัดรวมตัวกันที่โรงเรือนไก่ไข่ในทุกๆเช้า ก่อนเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ เพื่อมาให้อาหารแม่ไก่ไข่ที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่ นี่ไม่ใช่แค่กิจกรรมพิเศษ แต่เป็นภารกิจประจำวันของชุมนุม “เลี้ยงไก่ไข่” ที่น้องปันปัน และเพื่อน ๆ ป.4-6 ทั้ง 15 คน ช่วยกันดูแลอย่างตั้งใจ
ก่อนหน้านี้ โรงเรียนบ้านร้านตัดผมมีเพียงแปลงผักและโรงเพาะเห็ดเล็ก ๆ ต้องซื้อไข่และเนื้อสัตว์จากตลาดเพื่อ ทำอาหารกลางวันให้นักเรียนกว่า 550 คน แต่ตั้งแต่ปี 2565 ทุกอย่างเปลี่ยนไป
โครงการ “เลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน” ของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทและซีพีเอฟ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโรงเรียน ที่มาพร้อมกับโรงเรือนไก่ใหม่เอี่ยม แม่ไก่สาว 150 ตัว และอาหารสำหรับเลี้ยงไก่ 1 รุ่น
น้องปันปัน เล่าว่า ไก่พวกนี้กินอาหารแค่วันละมื้อเดียว...แต่มื้อนี้สำคัญมาก ต้องคำนวณปริมาณอาหารเป๊ะ ๆ ตามจำนวนตัวแม่ไก่ ให้อาหารกระจายทั่วถึงทุกตัว พร้อมกับเช็คระบบน้ำให้ไหลดีไม่ขาดหยด และต้องไม่ลืมเปิดพัดลมระบายอากาศให้ไก่
"ตอนแรกเรากลัวไก่ ไม่กล้าจับเลย" น้องปันปัน สารภาพพร้อมหัวเราะ "แต่พี่ๆ ซีพีเอฟมาสอนละเอียดมากๆ จนตอนนี้จับไม่กลัวแล้วและยังอยากมาดูแลไก่ทุกๆวัน"
ผลจากความตั้งใจของชุมนุมเลี้ยงไก่ไข่ ทำให้ทุกวันโรงเรียนมีไข่สดๆ วันละ 120-130 ฟอง ส่งตรงเข้าโรงครัวสำหรับทำเมนูไข่อร่อยๆ อย่าง "ไข่พะโล้" ที่เป็นของโปรดของเด็กทั้งโรงเรียน
ไม่เพียงแค่ได้ไข่กินเอง เด็ก ๆ ยังช่วยกันจัดการมูลไก่ นำไปตากแห้งเป็นปุ๋ยใช้ในสวนปาล์ม 300 ต้นของโรงเรียน และใช้กับแปลงผักปลอดสารที่ปลูกไว้สำหรับทำอาหารกลางวันอีกด้วย
“น้องแอม - จิรัชญา แก้วกอง” เพื่อนร่วมชั้นของน้องปันปัน บอกว่า "หนูชอบทำบัญชี บันทึกจำนวนไข่ นับเงินรายได้ เพราะไข่ที่เหลือเรานำไปขายให้ผู้ปกครอง ในราคาประหยัดช่วยลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน ตอนนี้มีเงินเก็บของโครงการถึง 150,000 บาทแล้ว จะได้มีทุนเลี้ยงไก่รุ่นต่อไป
“หนูดีใจมากที่ได้มาดูแลแม่ไก่ ทำให้ทุกคนมีไข่ไก่ทานทุกวัน แถมโรงเรียนเรายังเปิดเป็น "ศูนย์เรียนรู้" ให้ผู้ปกครองและชาวบ้านมาเยี่ยมชมได้ พ่อแม่ผมก็เคยมาดู บอกว่าภูมิใจที่ลูกชายช่วยเลี้ยงไก่เก่งแบบนี้" น้องแอม บอกด้วยรอยยิ้ม
สิ่งที่เด็ก ๆ ได้รับไม่ใช่แค่ไข่ไก่หรือเงินทุนเท่านั้น แต่ยังได้ฝึกทำงานเป็นทีม ฝึกคิดเลข จดบันทึก และเรียนรู้ระบบการเลี้ยงสัตว์อย่างมืออาชีพ เหมือนเจ้าของฟาร์มตัวน้อยๆ
น้องปันปันและเพื่อน ๆ อาจไม่รู้ว่า ตอนนี้มีโรงเรียนทั่วประเทศถึง 988 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการเดียวกัน มีนักเรียนกว่า 223,000 คน ได้ประโยชน์เหมือนกัน และภายในปี 2568 จะเพิ่มเป็น 1,018 โรงเรียนอีกด้วย
ไข่ไก่ฟองเล็กๆ ที่ออกมาจากฟาร์มของเด็ก ๆ โรงเรียนบ้านร้านตัดผม ไม่ใช่แค่ "อาหารกลางวัน" แต่ยังเป็นบทเรียนชีวิตที่สอนให้พวกเขารู้จักความรับผิดชอบ การวางแผน และการพึ่งพาตนเองไปพร้อม ๆ กัน
สำหรับโรงเรียนใดที่อยากมีฟาร์มไข่สดเหมือนบ้านร้านตัดผม สามารถติดต่อมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท โทร. 063-871-6545 หรือ 092-870-0783