ทำไม บ้านมือสอง ถึงขายได้ ขายดี โอกาสทำเงินนักลงทุน ช่วงเศรษฐกิจชะลอ

ตลาดบ้านมือสอง อีกหนึ่งทางเลือกของคนอยากมีบ้านเป็นของตนเองและโอกาสทองของนักลงทุน นักขายมือทองอาชีพอิสระ ปัจจุบันนิยมกันมาก ท่ามกลางตลาดบ้านมือ1 ขายไม่ออก มีสต๊อกต้องเร่งระบายมากถึง2แสนหน่วยมูลค่า1.3ล้านล้านบาท  ท่ามกลางความเข้มงวดของสถาบันการเงิน และหากเป็นคอนโดมิเนียม ยังมีเหตุแผ่นดินไหวเข้ามาซ้ำเติม 

เมื่อตลาดบ้านใหม่ชะลอตัว  จึงเป็นโอกาสทองธุรกิจบ้านมือสอง ทางเลือกที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยที่เห็นสภาพทรัพย์จับต้องได้ ที่สำคัญราคาไม่แพง เลือกทำเลได้  นี่คือสาเหตุว่าทำไม คนจึงหันมานิยม บ้านมือสองกันมาก จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยก็ดี  ซื้อเพื่อลงทุนก็ได้ ในหลายหน่วยรีโนเวตขาย หรือปล่อยเช่าในระยะยาวก็สร้างกำไรงาม  

สาเหตุทำไมบ้านมือสองจึงครองใจตลาดสวนทางเศรษฐกิจชะลอตัว

1.ทำเลอยู่ในเมือง

2.ราคาดึงดูดใจมากกว่าบ้านใหม่ 15-20%

3.ผู้ซื้อสามารถเห็นสภาพบ้านได้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพของทรัพย์

4. สภาพบ้านใหม่ ใกล้เคียงบ้านมือ1 เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ผ่อนไม่ไหวก็ปล่อยขายหรือถูกยึด เข้าทรัพย์ธนาคาร/กรมบังคับคดี

4.ต่อรองราคาได้อีกเมื่อเทียบกับบ้านใหม่

5.ปล่อยเช่า เพื่อลงทุนได้คุ้มค่าทำกำไรมากกว่า บ้านมือ1

6.กู้ธนาคารได้ง่ายกว่า เพราะไม่มีวางเงินดาวน์ /มีการประเมินราคามาก่อนจากธนาคารต่ำกว่าบ้านมือ1

7.ได้อานิสงส์จากมาตรการรัฐ

7.1ได้รับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองสำหรับบ้านและคอนโดราคาไม่เกิน7ล้านบาท (ตั้งแต่วันนี้ถึง 30ก.ย.69) 

7.2ได้รับผ่อนผันเกณฑ์ LTV (Loan to value ratio) จากธนาคารแห่งประเทศไทยกู้ได้100% ทุกราคาทุกสัญญา

7.3 เข้าโครงการสินเชื่อต่ำกับธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ผ่อนระยะยาว เกินกว่า30ปี

   จากการประเมินของ นายประวิทย์ อนุศิริ นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย สะท้อนว่า  ปัจจุบันมีบ้านว่างในตลาดประมาณ 1.4 ล้านหลัง เป็นบ้านมือหนึ่ง 4 แสนหลัง บ้านมือสอง 8-9 แสนหลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาทและไหลเข้าสู่ระบบเรื่องๆ จากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ผ่อนต่อไม่ไหว

 ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์ NPA จากธนาคารและกรมบังคับคดี ซึ่งตลาดบ้านมือสองเติบโตมากในปัจจุบัน หลังมีมาตรการลดค่าโอนและจำนอง 0.01% ทำให้ลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายจาก 1.4 แสนบาท เหลือ 700 บาท ประกอบกับมีนักลงทุนรายย่อย ซื้อบ้านมือสองไปรีโนเวตขายสร้างรายได้กันมาก ทั้งกลุ่มนายหน้า กลุ่มคนชั้นกลาง และพนักงานประจำที่ทำเป็นอาชีพเสริม เช่น นายแพทย์ วิศวะ สถาปนิก เป็นต้น

การที่บ้านมือสองเป็นที่นิยม เนื่องจากอยู่ทำเลที่สะดวก ราคาต่อรองได้ ไม่มีเงินดาวน์ และธนาคารปล่อยกู้ง่ายกว่าบ้านใหม่ เนื่องจากเป็นทรัพย์ลูกค้าธนาคารอยู่แล้ว โดยปีนี้คาดตลาดจะเติบโตจากปีก่อนหน้า 30% ทำเลที่เติบโตมากที่สุดคือ กรุงเทพฯ รองลงมา สมุทรปราการ ชลบุรี และนนทบุรี รวมถึงพื้นที่อีอีซี ที่มีขายโรงงานและโกดังให้เช่ากันจำนวนมาก

นี่คืออีก1ทางเลือกของคนต้องการมีบ้านเป็นของตนเองและอีก1ทางเลือกของนักลงทุนเพราะนี่คือโอกาสทองในขณะนี้ !!!