ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้เปลี่ยนโฉมหน้าของเมืองไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร แต่ยังพลิกฟื้นพื้นที่โดยรอบสถานีให้กลายเป็น “ทำเลทอง” ที่ดึงดูดทั้งนักลงทุน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และประชาชนทั่วไปที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ขณะเดียวกันยังเพิ่มมูลค่าที่ดินตลอดจนที่อยู่อาศัยให้มีราคาสูงขึ้น
บริบทของทำเลทอง
“ทำเลทอง” ในบริบทของระบบราง คือพื้นที่ที่อยู่ในรัศมี 400-800 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งสามารถเดินถึงได้ภายใน 5-10 นาที จุดแข็งของทำเลเหล่านี้คือความสะดวกในการเดินทาง เชื่อมต่อกับศูนย์กลางเศรษฐกิจและแหล่งงานหลัก อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ที่มองหาชีวิตที่รวดเร็วแต่มีคุณภาพ
โครงการรถไฟฟ้าหลักที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ทำเล ได้แก่รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต – คูคต, แบริ่ง – สมุทรปราการ)พื้นที่รอบสถานีอย่าง สะพานใหม่ คูคต แบริ่ง หรือปู่เจ้า ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมและศูนย์การค้า รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง – บางแค, บางซื่อ – ท่าพระ)
ทำเลอย่างบางแค ภาษีเจริญ หรือบางพลัด ดึงดูดโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ที่จับกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง รถไฟฟ้าสายสีทอง สายสีชมพู แม้จะเป็นสายรอง แต่มีบทบาทสำคัญในการกระจายการเติบโตของเมือง ทำเลรอบสถานีอย่างเจริญนคร และมีนบุรี ได้มีความเคลื่อนไหวมากขึ้น เช่นเดียวกับสายสีเหลืองแม้จะยังไม่ขยับมากแต่แนวโน้มการพัฒนาจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
โครงการในอนาคต เช่น สายสีม่วงใต้ และสายสีส้มตะวันตก
การลงทุนล่วงหน้าบริเวณเหล่านี้ เช่น รอบสถานีบางขุนนนท์ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกล
ทำไมทำเลรถไฟฟ้าถึงน่าจับตา?
ราคาที่ดินและอสังหาฯ เติบโตต่อเนื่อง ราคาที่ดินรอบสถานีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทุกปี ทำให้การซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือปล่อยเช่าเป็นทางเลือกที่ดี การเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ ผู้คนสามารถเดินทางเข้าศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ได้ง่าย ส่งผลให้พื้นที่รอบสถานีกลายเป็นจุดรวมของร้านค้า คาเฟ่ สำนักงาน และที่อยู่อาศัยแนวสูงคุณภาพชีวิตดีขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนาน ช่วยลดความเครียด และมีเวลาสำหรับครอบครัวหรือกิจกรรมส่วนตัวมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนในทำเลรถไฟฟ้า
สรุปทำเลทองรอบสถานีรถไฟฟ้าไม่ใช่เพียงจุดเดินทางสะดวก แต่คือพื้นที่แห่งโอกาสทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การลงทุน และคุณภาพชีวิต การเข้าใจแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และจับจังหวะการลงทุนอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนในระยะยาว และกลายเป็นผู้ที่ก้าวทันการเติบโตของเมืองอย่างแท้จริง!!!