ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานบทวิเคราะห์ "ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย" ไตรมาส 1 ปี 2568 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยพบว่าค่าดัชนีอยู่ที่ 131.8 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนว่าราคาบ้านยังคงขยับขึ้นต่อเนื่อง แม้อัตราการเติบโตเริ่มชะลอลง
การปรับขึ้นราคาครั้งนี้มีปัจจัยหลักมาจากต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ดินในทำเลศักยภาพ วัสดุก่อสร้างที่ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น รวมถึงค่าแรงที่ถูกปรับเพิ่มตั้งแต่ต้นปี ขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายในตลาดยังสูง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาเพียงเล็กน้อยเพื่อเร่งระบายสต๊อกให้สอดคล้องกับกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่
แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยว มีดัชนีอยู่ที่ 137.0 เพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อน และ 0.3% จากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 6.5% YoY ซึ่งทำเลที่โดดเด่นคือ พระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ ในกลุ่มบ้านราคา 7.51–10 ล้านบาท ขณะที่พื้นที่ปริมณฑล เช่น เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด กลุ่มบ้านราคาเกิน 10 ล้านบาท ก็มีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน
ในส่วนของทาวน์เฮ้าส์ มีดัชนีอยู่ที่ 129.5 ลดลง 1.4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 0.3% จากไตรมาสก่อน โดยในกรุงเทพฯ มีการปรับขึ้นเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ปริมณฑลบางส่วนกลับมีการปรับลดราคา โดยเฉพาะในย่านบางกรวย–บางใหญ่–บางบัวทอง–ไทรน้อย ในระดับราคา 2.01–3.00 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ใช้ต้นทุนเดิมและต้องการกระตุ้นตลาด
REIC ยังระบุถึงกลยุทธ์การส่งเสริมการขายในไตรมาสนี้ว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีลดค่าใช้จ่ายวันโอน และให้ส่วนลดเงินสด เพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ท่ามกลางความต้องการที่ยังฟื้นตัวช้า โดยสัดส่วนการให้ส่วนลด ณ วันโอนอยู่ที่ 34% ขณะที่การแจกของแถม เช่น เครื่องปรับอากาศหรือมิเตอร์น้ำไฟ ลดลงจากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ ในบทวิเคราะห์ใช้การสำรวจข้อมูลจาก 245 โครงการที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยไม่รวมตลาดบ้านมือสอง ใช้ปี 2555 เป็นฐานดัชนี
ข้อมูลดัชนีนี้สะท้อนภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงเดินหน้าอย่างระมัดระวัง ภายใต้แรงกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้นและดีมานด์ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่ผู้ประกอบการพยายามประคับประคองราคาและกระตุ้นยอดขายเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อได้ในภาวะตลาดที่ยังเปราะบาง