กระทรวงการคลังเตรียมเรียกภาคเอกชนหารือเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนเพื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจรับมือกำแพงภาษีสหรัฐ ขณะโครงการเรือธงแจกเงินดิจิทัล10,000 บาทอาจต้องยกเลิกออกไป
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจซบเซา ฉุดตลาดอสังหาฯหดตัวแรง จากแรงกดดันรอบทิศทาง แม้ที่ผ่านมา รัฐได้สนับสนุน มาตรการทุกด้าน
ทั้ง มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจะจำนอง รวมถึงยกเลิก เกณ์LTV ชั่วคราวกู้ได้100 % กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย ยอมรับว่ามาตการดังกล่าวมาช้าไปเมื่อเทียบกับเสียหายที่เกิดขึ้น หัวใจสำคัญรัฐบาลต้องมีมาตรการเร่งด่วนที่ชัดเจน แรงและเร็ว มีเม็ดเงินลงสู่ระบบฐานราก พยุงเศรษฐกิจครึ่งปีหลังเพื่อแก้ปัญหากำแพงภาษีสหรัฐ เหมือนเช่นจีนและประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เหตุผลเดียวที่ผู้ประกอบการต้องการให้กระทรวงการคลังสนับสนุนคือ สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อ ตามข้อเท็จจริง เพราะปัจจุบันมีกลุ่มกำลังซื้อที่ผ่อนไหว แต่ถูกเหมารวม
มีผลให้ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน3ล้านบาท บางโซน ถูกปฎิเสธสินเชื่อสูงถึง90% นอกจากนี้ยังต้องการให้ สถาบันการเงิน ลดดอกเบี้ยช่วยผู้ซื้อบ้าน หรือMRR หลังจากกนง.ปรับลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม3สมาคมฯ จะหารือร่วมกันอีกครั้งหากกระทรวงการคลังเปิดโอกาสภาคเอกชนเข้าหารือ
นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง อุปนายก สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า ปัญหาใหญ่ของภาคก่อสร้างคือสภาพคล่อง ที่เรียกร้องมาโดยตลอด คือสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ซึ่งสภาวะเช่นนี้ เข้าใจ ว่าเป็นเรื่องที่ยาก
แต่ สมาคมฯมีข้อเสนอ ว่า ราชการ เจ้าของโครงการ ต้องเบิกจ่ายเงินล้วงหน้า รายงวดงาน และให้สถาบันการเงินค้ำประกัน เพื่อให้เกิดสภาพคล่องงานเดินต่อได้ จากเดิมจ่าย 10% ทั้งสัญญาหรือทั้งโครงการที่ประมูลส่งผลให้ ผู้รับเหมา นำเงินไปใช้ผิดระบบ ผิดประเภท ขณะโครงการขนาดใหญ่มองว่านำออกมาไม่มาก ต้องรองบประมาณใหม่ เชื่อว่าต้องใช้เวลา