ทำไม มั่นใจ "ตลาดคอนโด" กระทบระยะสั้น เหตุแผ่นดินไหว “no choice  cannot change”

02 เม.ย. 2568 | 00:17 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2568 | 07:16 น.

ไขข้อข้องใจ ทำไม "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" นายกสมาคมอาคารชุดไทย ถึงมั่นใจ แผ่นดินไหวกระทบตลาดคอนโดฯระยะสั้น กับ วลี “no choice  cannot change”

 

เหตุการณ์แผ่นดินไหว ครั้งรุนแรงในไทย อาคารสูง คอนโด มิเนียมหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และอาจนำมาซึ่งผลกระทบตลาดคอนโดมิเนียมรอการขายกว่า4.6แสนล้านบาท

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต

ต่อเรื่องนี้ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาดใหญ่และไทยได้รับผลกระทบรุนแรงครั้งแรก ในทางกลับกันไม่พบว่าอาคารไหน เกิดวิบัติพังลง

โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมทั้ง 5,996 โครงการ ที่ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2550ตามมาตรฐานการก่อสร้างเพื่อรองรับแผ่นดินไหว มีเพียง อาคารสำนักงานหลังใหม่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพียงรายเดียว ที่ทำให้เกิดความตื่นกลัว

“การก่อสร้างอาคารสูงทุกอาคารในประเทศไทยหลังปี2550 ต้องก่อสร้างตามมาตรฐานการก่อสร้างเพื่อรองรับแผ่นดินไหว ทำให้อาคารสูงทั้งคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานไม่พังลงเป็นอันตรายแก่ชีวิตคนในอาคารมีความเสียหายในวงจำกัด”

 สะท้อนถึงมาตรฐานการก่อสร้างอาคารสูงของไทย ทั้งกฎหมายที่กำหนดความเข้มงวดและผู้ประกอบการเอง มักลงทุนในสเปกที่สูงอยู่แล้ว  วิศวกรของไทยที่มีศักยภาพสูง และสามารถผ่านบททดสอบกับภัยพิบัติครั้งนี้ 

ดังนั้น หากมองว่าคนจะทิ้งคอนโดมิเนียมแล้วไปหาซื้อบ้านแนวราบนายประเสริฐมองว่า “no choice  cannot change”  “คีย์ เวิร์ด” ที่เคยพูดไว้เมื่อครั้งเกิดนํ้าท่วมใหญ่ปี2554  ที่คนจะหนีจากบ้านแนวราบไปซื้อคอนโดมิเนียม 

หรือแม้แต่ช่วงสถานการณ์โควิด  แต่ในที่สุดก็กลับมาซื้อคอนโดมิเนียมเช่นเดิมเพราะการใช้ชีวิตของคนเมืองถูกจำกัด หลายคนต้องการที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง มีความสะดวกสบายในการเดินทาง จึงต้องซื้อคอนโดมิเนียมอยู่อาศัย เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เช่นกัน  อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตลาดคอนโดมิเนียม ได้รับผลกระทบ

ประเมินว่าจะกระทบระยะสั้น ขณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในจะมีราคาสูง เพราะที่ดินราคาแพง

และหายาก พอๆกับคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ที่ก่อสร้างในเขตเมืองไม่คุ้มทุน  หากหาซื้อได้ต้องอยู่นอกเมือง เท่านั้น ซึ่งขัดกับไลฟ์สไตล์ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือสร้างเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ที่กฎหมายของไทย ได้ปูพื้นฐานที่ดีไว้ล่วงหน้า

 “เราทำตามกฎหมาย เกี่ยวกับผลกระทบแผ่นดินไหวได้ถูกบรรจุเป็นสเปกความแข็งแรงของอาคารโดยมีต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งมีมากว่า20 ปี ทำให้ผ่านการทดสอบ  หากไม่เข้มงวดอาจเกิดโศกนาฎกรรมนับพันนับหมื่นคน เหมือนประเทศอื่น วันนี้ต้องยินดีกับประเทศเรา ที่ทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง มีเพียงความเสียหายบริเวณวัสดุพื้นผิว ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถซ่อมได้”

นอกจากนี้ ยังมีโครงสร้าง ชั้นที่สอง  คือพระราชบัญญัติ (พรบ.)อาคารชุด มีนิติบุคคลอาคารชุด ที่แข็งแรง กำหนดให้มีระบบประกันภัยพิบัติในทุกอาคาร ซึ่งเป็นประกันรวม และประกันส่วนบุคคลทุกที่พร้อมดูแลร่วมกัน

นายประเสริฐทิ้งท้ายว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม  แต่จะต้องวางเรื่องการขายและมาตรการต่างๆลง และต้องหันมา ร่วมมือกันเดินหน้าฟื้นฟูความเชื่อมั่นผู้บริโภค ให้กลับมา

เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอบคุณ วิศวกรที่เก่ง กฎหมายที่แข็งแรง ผู้ประกอบการที่ใส่ใจคุณภาพ ช่วยให้ตึกสูงทุกโครงการปลอดภัยโดยไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในครั้งนี้!!!

 

หน้า 20  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,084 วันที่ 3 - 5 เมษายน พ.ศ. 2568