ทำเลย่านศรีนครินทร์ -อ่อนนุช เติบโตด้านที่อยู่อาศัยและแหล่งงานอย่างรวดเร็ว จากการมาของ รถไฟฟ้า สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) รวมถึงโครงข่ายการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว ส่งผล การพัฒนา ขยายตัวมาบริเวณดังกล่าวมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่นิยม ซื้อที่อยู่อาศัยและสามารถทำธุรกิจได้ในตัว จึงจุดประกายให้ดีเวลอปเปอร์ มองหาโอกาส การลงทุนอสังหาฯรูปแบบใหม่ “ทาวน์โฮมสไตล์ออฟฟิศ”
นายเทธดา อุชุปาละนันท์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท สวอน เอสเตท จำกัด ระบุว่า แนวโน้มการซื้อที่อยู่อาศัย ผู้บริโภครุ่นใหม่ไม่ได้มองการซื้อบ้านเป็นเพียงค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต แต่มองเป็นปัจจัยเพื่อการออมเงินและการลงทุนมากกว่า ดังนั้น เทรนด์การซื้อบ้านในปัจจุบันและอนาคตภาพรวม คือ "การซื้อที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และมีความคล่องตัวในการซื้อขาย"
จึงมีความสำคัญมากที่โครงการจะต้องเข้าใจในสิ่งที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ต้องการ นั่นคือตอบโจทย์ความสมดุลของชีวิตที่ทำงานหนักแต่ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน กลุ่มนี้จึงไม่ลังเลที่จะให้รางวัลเรื่องบ้านกับตัวเอง แต่ต้องเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แม้ราคาสูงแต่หากทำให้เกิดผลสำเร็จในแผนการดำเนินชีวิตระยะยาวก็พร้อมจะตัดสินใจทันที
ดังนั้น จึงนำเอาเทรนด์การซื้อบ้านมาผนวกกับกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ได้ทำให้ เกิดการ ผลักดันโครงการใหม่ "ชญาดา บิซ เพลส" (Chayada Biz Place) ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นลูกค้าหลักที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 35-53 ปี ที่มีการศึกษาดี ความรู้ความชำนาญ สามารถทำงานหรือบริหารธุรกิจได้ด้วยตัวเอง พร้อมมีความฝันที่จะเป็นเจ้านายตัวเอง ผ่านที่อยู่อาศัยที่มีรูปแบบและทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและการเริ่มต้นธุรกิจ
เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าให้ไปได้ไกลถึงเป้าหมาย โครงการดังกล่าวจึงมีจุดเริ่มต้นพัฒนาขึ้น ในทำเลที่มีศักยภาพบนโซน ศรีนครินทร์-อ่อนนุช ซึ่งมีทำเลอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครฯ และติดกับถนนเส้นหลัก ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับพื้นทีสมุทรปราการซึ่งเป็นทำเลรอง ทำให้มีราคาที่ตอบโจทย์ต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และยังรองรับต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้แบบครอบคลุม
“แนวคิดหลักของ ชญาดา บิซ เพลส คือทำบ้านให้ลูกค้า พึงพอใจในยามซื้อ มีความสุขในยามอยู่อาศัย และมีความสบายใจในยามต้องขายในราคาเริ่มต้น14ล้านบาท เป้าหมายเราจึงเป็นการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดและต้องไม่เป็นภาระให้กับลูกค้าในอนาคต นั่นเพราะเราเข้าใจในวัฏจักรของตลาดบ้านเป็นอย่างดี เพราะหากลูกค้ามีความจำเป็นต้องขายบ้าน เราก็อยากให้ลูกค้าสามารถขายได้รวดเร็วและได้ราคา ซึ่ง ชญาดา บิซ เพลส มีศักยภาพมากพอที่จะตอบโจทย์แนวคิดนี้ทุกด้าน”
ทั้งนี้ ในปี 2565-2566 บริษัท สวอน เอสเตท จำกัด ได้มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ จากการเลือกพัฒนาโครงการโดยเน้นทำเลและคุณภาพเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้สามารถขายได้อย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและยึดมั่นในกลยุทธ์การพัฒนาที่สัมฤทธิ์ผล
ส่วนในปี 2567 นี้ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอน ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องดำเนินนโยบายแบบประคองตัวไม่เน้นที่การเติบโต และต้องแข่งขันเพื่อแย่งลูกค้าที่มีอยู่จำกัด แต่อย่างไรก็ตาม นับเป็นผลประโยชน์ที่ตกไปยังผู้บริโภค ที่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้ซื้ออสังหาฯ ในราคาที่เพิ่มในอัตราที่ช้าลงอย่างมาก ซึ่งส่วนของโครงการ ชญาดา บิซ เพลส ที่อยู่ในตลาดบ้านทาวน์โฮม จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภค เพราะเป็นจุดสมดุลระหว่างคอนโดมิเนียมกับบ้านเดี่ยว โดยมีจุดแข็งที่ราคาไม่แพงแต่ได้ทำเลดีกว่าบ้านเดี่ยวและไม่ต้องลุ้นกับสถานการณ์โอเวอร์ซัพพลายเหมือนคอนโดมิเนียมนั่นเอง