svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

TOA ธุรกิจที่ไม่ได้มีดีแค่สี บนเส้นทาง 60 ปี ยังเติบโตต่อเนื่อง

16 มิถุนายน 2566

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) "TOA" หรือที่ทุกคนเรียกกัน “สีทีโอเอ” บนเส้นทางธุรกิจกว่า 60 ปี ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสแรกปี 66 มียอดขายพุ่ง 5,654 ล้านบาท

หากพูดถึงเรื่องสี คงมีไม่กี่บริษัทที่คนไทยจะนึกถึงหนึ่งในนั้นที่อยู่มาอย่างยาวนานในการดำเนินธุรกิจด้านนี้ก็คือ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) "TOA" หรือที่ทุกคนเรียกกัน "สีทีโอเอ"

"สีทีโอเอ" ก่อตั้งโดย นายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ที่ดำเนินธุรกิจในฐานะผู้นำเข้าสีจากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2507 ก่อนเริ่มขยายธุรกิจเติบโตมาจนถึงในปัจจุบัน จากธุรกิจครอบครัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคปมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท

โดยในปี 2520 ถือเป็นผู้คิดค้นและผลิตสีที่ไม่มีสารปรอท สารตะกั่ว และสารโลหะหนักได้สำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทย ต่อมาในปี 2522 ปฏิวัติวงการตลาดสีน้ำพลาสติก

ในการนำนวัตกรรม สีน้ำอะคริลิกแท้ 100% มาใช้เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แบรนด์สี "SuperShield" สีเกรดคุณภาพสูงสุด ทนทานนานกว่า 15 ปี ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ TOA ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดสีทาอาคารของประเทศไทย

นายจตุภัทร ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TOA ระบุว่า ผลกระกอบการในไตรมาสแรกของปี 66 ทาง TOA มียอดขาย 5,654 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14% ซึ่งมาจากการเติบโตของทุกช่องทางการขายภายในประเทศ

โดยเฉพาะการเติบโตในกลุ่มธุรกิจสีทาอาคารที่มาจากปริมาณความต้องการใช้สีที่เพิ่มขึ้น การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้มีการรีโนเวทโรงแรม ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีรายได้มาจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และยิปซัมบอร์ดที่มีการเติบโตต่อเนื่อง

นายจตุภัทร ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "TOA"

สำหรับในไตรมาสแรกปี 66 มีกำไรสุทธิ 632 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 54% เนื่องจากราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตอื่นๆ มีการปรับลดราคาลง และค่าเงินบาทที่ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าผลประกอบการของบริษัทเติบโต 15% จากปีก่อนที่มียอดขาย 20,000 ล้านบาท เป็นผลมาจาก 7 ธุรกิจ ทั้งธุรกิจสี และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องจะเติบโตตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้มีการรีโนเวทโรงแรม ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น

TOA ไม่ได้มีดีแค่สี เพราะมีถึง 7 ธุรกิจในเครือ (TOA Group Holding) ประกอบด้วย

  1. ธุรกิจสีอุตสาหกรรม
  2. ชิ้นส่วนยานยนต์
  3. โรงงานน้ำตาล
  4. ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค
  5. ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
  6. ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และเอ็มจี
  7. ธุรกิจ Property หรือห้างญี่ปุ่นที่รู้จักกันในชื่อ "ดองกิ"

ภาพประกอบ ธุรกิจในเครือ "TOA"