เฟรเซอร์สฯ ปักธงผู้นำตลาดอาคารสำนักงาน 2.6 แสนตร.ม.การันตรี “WiredScore”

04 มิ.ย. 2566 | 01:07 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2566 | 01:20 น.

เฟรเซอร์สฯปักธงผู้นำตลาดอาคารสำนักงานดัน 2.6 แสนตร.ม. ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) แนวคิด ESG การันตรี มาตรฐาน “WiredScore”

 

 

 

แนวโน้มความต้องการอาคารสำนักงาน แนวคิด ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) รวมไปถึงความยั่งยืน และ ความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing) กลาย เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่า ที่มีอยู่ราว 5.8 ล้านตร.ม. ในไทย โดยสัดส่วนประมาณ 20% ล้วนเป็นอาคารใหม่ที่ผ่านการรับรองการเป็นอาคารสีเขียวแล้วแทบทั้งสิ้น

ภายใต้ตลาดที่ชะลอตัวลงในฝั่งของซัพพลาย อันเนื่องมาจาก ภายในปี 2569 จะมีซัพพลายใหม่ๆ ที่ทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ ทะลักเข้ามาเติมอีก 1.7 ล้านตร.ม. อีกทั้ง การขยายตัวของอัตราค่าเช่ายังทำได้จำกัด เพราะกลุ่มเป้าหมายบริษัทขนาดกลาง-ขนาดเล็ก ลดทอนพื้นที่เช่าน้อยลง จากเหตุผลเศรษฐกิจ และขาลงในธุรกิจบางประเภท

 อย่างไรก็ดี อาจเป็นข้อยกเว้น สำหรับพื้นที่ให้เช่าของอาคารเกรด A ซึ่งโดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้ง ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) เดินทางสะดวก สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทันสมัย พร้อมทั้งมีไลฟ์สไตล์รองรับพนักงาน พบยังคงมีความแข็งแกร่ง ด้วยเม็ดเงินและการโยกย้ายเข้ามาตั้งสาขาธุรกิจในไทยของบริษัทข้ามชาติต่างๆ ในยามที่ ตลาดเอเชีย โดยเฉพาะ ไทย เป็น Safe-Zone การลงทุน แต่นั่นมาพร้อมกับโจทย์ท้าทาย เมื่อความต้องการด้านเทคโนโลยี-ดิจิทัลของผู้เช่ามาแรง อาคารสำนักงานในไทยจะปลดล็อกอย่างไร 

อาคารสำนักงานไทยเนื้อหอม

 “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์ ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอสังหา ริมทรัพย์ โดยมีบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) หรือ FPCT ภายใต้แบรนด์ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในตลาดอาคารสำนักงาน ผ่านมุมมองของ นายวิทวัส คุตตะเทพ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม

ผู้ถือครองพื้นที่ 5 อาคารดัง ได้แก่ ปาร์คเวนเซอร์ อีโคเพล็กซ์, เอฟวายไอ เซ็นเตอร์, สามย่านมิตรทาวน์,สาทรสแควร์ และ สีลมเอจ รวม 2.6 แสนตร.ม. ด้วยอัตราการเช่าอาคารเฉลี่ย 93% โดยนับเป็นหน่วยธุรกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้พอร์ตอสังหาฯ ครบวงจร ราว 15-20% ต่อปี ผสานรวมกลุ่มธุรกิจโรงแรม,พื้นที่ค้าปลีกเติมเต็มให้กับกลุ่มธุรกิจโครงการที่พักอาศัย และอินดัสเทรียล (คลังสินค้าและโลจิสติกส์)

นายวิทวัส ยอมรับ ปัจจุบันตลาดอาคารสำนักงานในไทย มีการแข่งขันที่น่าสนใจ จากการเข้ามาของซัพพลายใหม่ๆ อีกนับหลักล้านตร.ม.ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะอาคารที่เปิดใช้งานแล้วก็มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อดึงให้ลูกค้าเก่าพึงพอใจเช่าพื้นที่ต่อในระยะยาว

 สำหรับโอกาสของตลาดนั้น มาจากลมเปลี่ยนทิศแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของฝั่งสหรัฐและยุโรปถดถอย ทำให้ เอเชีย กลายเป็นดาวเด่นในแง่การลงทุนใหม่ โดยเฉพาะไทย ที่ค่าครองชีพถูกได้เปรียบกว่าหลายประเทศ พบขณะนี้บริษัทข้ามชาติใหญ่ๆ เริ่มมองหาที่ตั้งสำนักงานในไทย ด้วยต้นทุนค่าเช่าที่น่าดึงดูดกว่า ขณะมาตรฐานอาคาร และการบริหารจัดการผู้เช่าเชื่อประเทศไทยไม่เป็นรองใคร โดยปัจจุบัน ทั้ง 5 อาคารของบริษัท มีลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติหลากหลาย และเป็นที่สนใจของกลุ่มธุรกิจ IT, กลุ่มการผลิต, การเงิน, ประกันภัย, สายการบิน, โลจิสติกส์ แล อสังหาฯ เป็นต้น

 

WiredScore มาตรฐานอาคารดิจิทัล

ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จ นอกจากความโดดเด่นของ 1.ทำเลที่ตั้ง 2. แบรนด์ดิ้ง 3.ราคา-ขนาดพื้นที่ตอบโจทย์ และ 4.มาตรฐานอาคารแล้ว ล่าสุด เฟรเซอร์สฯ ได้ปลดล็อก ตลาดอาคารสำนักงานไทยไปอีกขั้น และคาดว่าจะเป็นการยกระดับวงการให้เข้าสู่มาตรฐานความเป็นสากล และจะทำให้อาคารสำนักงานของไทย โดดเด่นในกลุ่มบริษัทนานาชาติมากขึ้น

 นายวิทวัส เผยว่า ปัจจุบัน ทั้งอาคารปาร์คเวนเชอร์- เอฟวายไอ เซนเตอร์ และสามย่านมิตรทาวน์ ได้ผ่านการการันตีจาก “WiredScore” ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่ระดับสากล นอกเหนือจาก มาตรฐาน LEED, อาคารประหยัดพลังงาน และ อาคาร Well being โดยจะได้รับต่อเมื่อผ่านการประเมิน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่

ความสามารถในการเชื่อมต่อ (Connectivity), ความพร้อมในการให้บริการเชื่อมต่อ (Readiness), โครงสร้างพื้นฐาน(Infrastructure) และนวัตกรรม (Innovation) ซึ่งภาพรวมใช้ในการรับรองว่า อาคารดังกล่าว มีมาตรฐานเชื่อมต่อทางดิจิทัลระดับสากล มีเทคโนโลยีทันสมัย และความยืดหยุ่นสูง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

 “ทั้ง 3 อาคาร ของเฟรเซอร์ส ได้รับรอง WiredScore เป็นรายแรกในไทย โดยปาร์คเวนเชอร์ฯ ผ่านในระดับ Platinum ทั้งๆทั้งหมด เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 6-11 ปี สะท้อนถึงคุณภาพของอาคาร และผู้นำในธุรกิจอาคารสำนักงาน” 

 นอกจากนี้ FPCT ยังมีอาคารอีก 2 แห่งที่อยู่ระหว่างการประเมิน คือ อาคารสาทรสแควร์ และอาคารสีลมเอจ ซึ่งคาดว่าจะประเมินแล้วเสร็จภายในปีนี้ด้วย

รองรับผู้เช่าอาคารยุคดิจิทัล

  ความสำเร็จข้างต้น สะท้อนถึงการมอง “ลูกค้า” เป็นสำคัญโดยในมุมของผู้บริหาร FPCT ยังระบุว่า พฤติกรรมผู้ใช้งานอาคาร และ เทคโนโลยีกำลังจะเปลี่ยนไป ซึ่งอาคารเหล่านี้ นอกจากต้องคงความทันสมัยแล้ว ยังต้องมีความหยืดหยุ่นต่อความต้องการด้านเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดีด้วย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เช่า ครอบคลุมประสิทธิภาพของสัญญาณดิจิทัลภายในอาคาร อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การออกแบบโครงสร้างให้สามารถรองรับผู้ให้บริการได้หลายราย

เพื่อให้ผู้เช่าอาคารมีทางเลือกในการใช้บริการ ตลอดจนมีเครือข่ายสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน พร้อมยังรักษามาตรฐานการให้บริการด้วยการตรวจสอบความแรงของสัญญาณโทรศัพท์ทั่วทั้งอาคารอยู่เสมอ และติดตั้งหน่วยกระจายสัญญาณ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทุกการเชื่อมต่อทั่วทั้งอาคาร นอกจากนั้น ทุกอาคารยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมและปลอดภัยจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น

 “มาตรฐานใหม่ๆจะถูกนำมาใช้ในอาคารสำนักงานมากขึ้น นอกจากผู้เช่าให้ความสำคัญกับพนักงาน มองหาอาคารที่เป็นมิกซ์ยูส มีรีเทล โรงแรมรองรับไลฟ์สไตล์พนักงานแล้ว มาตรฐานในงานระบบดิจิทัล นวัตกรรม ที่จะทำให้บริษัทเขาเชื่อมต่อกับภาย นอกได้อย่างเสถียร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานข้ามแดน เป็นมิติใหม่ที่จะสำคัญทั้งปัจจุบันและอนาคต”

 ทั้งนี้ ภายใต้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ “ทีซีซี กรุ๊ป” เจ้าของโครงการ อสังหาฯชั้นนำ วัน แบงค็อก พื้นที่ 1.8 ล้านตร.ม. และมีพอร์ตที่ดินเป็นจำนวนมาก บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในอสังหาฯโดยเฉพาะ

มิกซ์ยูส อาคารสำนักงาน อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยจะประเมินจากความพร้อมของบริษัทและสถานการณ์ของตลาด และใช้ความเป็นต้นแบบอาคารผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยรักษาความเป็นผู้นำของตลาดต่อไป

วิทวัส คุตตะเทพ