Play
‘ฮาบิแทท’บุกลักชัวรี ชูราคาตํ่ากว่าตลาด
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
ฮาบิแทท กรุ๊ป ชิมลางตลาดคอนโดมิเนียมหรูในกรุงเทพฯ ผุดแบรนด์ใหม่ “วาลเด้น” ทุ่ม 2,500 ล้าน ประเดิมโครงการแรกบนทำเลทองย่านซีบีดี เน้นลูกค้าลงทุนต่างชาติ ญี่ปุ่น จีน
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวรีมีการเติบโตที่ดี และส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในย่านอโศกและพร้อมพงษ์ ซึ่งจากการสำรวจของบริษัท พบว่า ซัพพลายในย่านดังกล่าวปัจจุบันมีมากกว่า 1 แสนหน่วย และอัตราการขายได้ประมาณ 70-80% สะท้อนว่ากำลังซื้อยังคงมีการเติบโต ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2.56-3 แสนบาทต่อตารางเมตร ถือว่าค่อนข้างสูง ทำให้บริษัท มองเห็นโอกาสการลงทุนในกรุงเทพฯ
[caption id="attachment_268146" align="aligncenter" width="503"]
ชนินทร์ วานิชวงศ์[/caption]
โครงการแรกในการรุกตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวรีใช้แบรนด์ วาลเด้น บนทำเลศักยภาพย่านอโศก ออกแบบเป็นคอนโด มิเนียมโลว์ไรส์ สูง 7 ชั้น จำนวน 83 ห้องชุด สูง 7 ชั้น ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 31-65 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท เฉพาะซื้อที่ดินและการก่อสร้าง โดยที่ตั้งโครงการอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 23 ใกล้จุดร่วมระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท
เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ บริษัทใช้กลยุทธ์ราคาเป็นเครื่องมือหลัก โดยช่วงเปิดตัวตั้งราคาขายเฉลี่ย 1.9 แสนบาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้น 5.9 -11 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับคอนโด มิเนียมหรูในย่านเดียวกันมีราคาขายเฉลี่ยที่ 2.5-3 แสนบาทต่อตารางเมตร คาดว่าด้วยราคาจะช่วยผลักดันยอดขายได้อย่างดี
“เราปักหมุดทำเลย่านอโศก ซึ่งได้ชื่อว่าย่านซีบีดี เป็นศูนย์กลางของธุรกิจย่านสุขุมวิท มีศักยภาพดีเยี่ยมหลายด้าน ทั้งการเดินทาง การพัฒนาธุรกิจ เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัย เพราะมีองค์ประกอบครบ มีทั้งสถานทูต โรงแรม ออฟฟิศ แหล่ง ช็อปปิ้ง โรงเรียน โรงพยาบาล ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองและนักท่องเที่ยว เป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก โดยเฉพาะสำหรับการลงทุน ฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ 70-80% คือกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนและญี่ปุ่น โดยจากการสำรวจการเพิ่มขึ้นของราคา (Capital Gain) และอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าคอนโดฯ ในย่านอโศก เพิ่มขึ้นทุกปี 6-10% ส่วนผลตอบแทนปล่อยเช่าก็คุ้มค่า ประมาณ 4-6%” นายชนินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯวางแผนเริ่มก่อสร้าง “วาลเด้น อโศก” ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 คาดแล้วเสร็จกลางปี 2563 และขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 50% ก่อนเปิดพรีเซลล์ช่วงวันที่ 24-25 มีนาคมนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวรีมีการเติบโตที่ดี และส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในย่านอโศกและพร้อมพงษ์ ซึ่งจากการสำรวจของบริษัท พบว่า ซัพพลายในย่านดังกล่าวปัจจุบันมีมากกว่า 1 แสนหน่วย และอัตราการขายได้ประมาณ 70-80% สะท้อนว่ากำลังซื้อยังคงมีการเติบโต ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2.56-3 แสนบาทต่อตารางเมตร ถือว่าค่อนข้างสูง ทำให้บริษัท มองเห็นโอกาสการลงทุนในกรุงเทพฯ
[caption id="attachment_268146" align="aligncenter" width="503"]
โครงการแรกในการรุกตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวรีใช้แบรนด์ วาลเด้น บนทำเลศักยภาพย่านอโศก ออกแบบเป็นคอนโด มิเนียมโลว์ไรส์ สูง 7 ชั้น จำนวน 83 ห้องชุด สูง 7 ชั้น ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 31-65 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท เฉพาะซื้อที่ดินและการก่อสร้าง โดยที่ตั้งโครงการอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 23 ใกล้จุดร่วมระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท
เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ บริษัทใช้กลยุทธ์ราคาเป็นเครื่องมือหลัก โดยช่วงเปิดตัวตั้งราคาขายเฉลี่ย 1.9 แสนบาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้น 5.9 -11 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับคอนโด มิเนียมหรูในย่านเดียวกันมีราคาขายเฉลี่ยที่ 2.5-3 แสนบาทต่อตารางเมตร คาดว่าด้วยราคาจะช่วยผลักดันยอดขายได้อย่างดี
“เราปักหมุดทำเลย่านอโศก ซึ่งได้ชื่อว่าย่านซีบีดี เป็นศูนย์กลางของธุรกิจย่านสุขุมวิท มีศักยภาพดีเยี่ยมหลายด้าน ทั้งการเดินทาง การพัฒนาธุรกิจ เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัย เพราะมีองค์ประกอบครบ มีทั้งสถานทูต โรงแรม ออฟฟิศ แหล่ง ช็อปปิ้ง โรงเรียน โรงพยาบาล ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองและนักท่องเที่ยว เป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก โดยเฉพาะสำหรับการลงทุน ฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ 70-80% คือกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนและญี่ปุ่น โดยจากการสำรวจการเพิ่มขึ้นของราคา (Capital Gain) และอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าคอนโดฯ ในย่านอโศก เพิ่มขึ้นทุกปี 6-10% ส่วนผลตอบแทนปล่อยเช่าก็คุ้มค่า ประมาณ 4-6%” นายชนินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯวางแผนเริ่มก่อสร้าง “วาลเด้น อโศก” ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 คาดแล้วเสร็จกลางปี 2563 และขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 50% ก่อนเปิดพรีเซลล์ช่วงวันที่ 24-25 มีนาคมนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
