บัณฑิต กรุ๊ปแตกไลน์ อัดงบ400ล้าน ผุดบริการ WE HOME

 

ปี2565 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จัดอยู่ในโหมดธุรกิจหนึ่งที่น่าจับตา หลายภาคส่วนมั่นใจว่าจะขยับตัวดีขึ้น จะเป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่นเดียวกับ บัณฑิต กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจพัฒนอสังหาริมทรัพย์ มองเห็นสัญญาณบวก  ได้มีแผนแตกไลน์ธุรกิจให้ครบวงจรมากขึ้น

“ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นางสาวมัณฑิตา พร้อมเพรียงชัย  กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี โฮมดีสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด ถึงแผนลงทุนปีนี้

 

 

• จากผู้รับเหมาสู่ธุรกิจอสังหาฯ

                นางสาวมัณฑิตา อธิบายว่า แรกเริ่มคุณวิชา พร้อมเพรียงขัย (บิดา) ได้เริ่มต้นธุรกิจ บัณฑิต กรุ๊ป จากการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แล้วขยายกิจการมาสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเริ่มดำเนินกิจการประเภท serviced apartment เป็นโมเดลธุรกิจแรกของ บัณฑิต กรุ๊ป และธุรกิจได้เติบโตเรื่อยมา

 

ปัจจุบันมีโครงการอสังหาฯที่เป็นคอนโดมิเนียมแบบ free hold ซึ่งพื้นที่โครงการส่วนใหญ่จะอยู่รอบนอกกรุงเทพมหานคร เช่น ศาลายา และรังสิต เมื่อทาง บัณฑิต กรุ๊ป มีโครงการเกิดขึ้นมากมาย ทางคุณพ่อจึงเห็นโอกาสทางธุรกิจเพิ่มจากการขายโครงการรวมทั้งคุณพ่อก็ยังมีธุรกิจด้านเฟอร์นิเจอร์ที่มีทั้งผลิตและจัดหาสินค้าให้ได้ด้วยเช่นกัน เพื่อใช้กับโครงการของบัณฑิต กรุ๊ป ก่อน

• โควิดโอกาสขยายธุรกิจ

               

ต่อมาในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงมองเห็นความต้องการและความจำเป็นของผู้คนมากมายที่ต้องการสินค้าเพื่อช่วยในการปรับปรุง หรือเปลี่ยน แปลงบ้านให้สามารถอยู่ร่วมกันกับสมาชิกคนอื่นๆ ได้ลงตัวมากกว่าแต่ก่อน

 

โดยมุ่งเน้นไปที่วิธีการนำเสนอสินค้าที่สร้างแรงบันดาลใจ เข้าใจถึงปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ จึงเกิดเป็นแนวคิดการทำธุรกิจสินค้าสำหรับสร้างไลฟ์สไตล์และความเป็นอยู่ที่ดีภายในบ้าน

 

ล่าสุดได้ขยายธุรกิจโดยเปิดให้บริการ WE HOME ทางเลือกใหม่ในการช้อปปิ้งในรูปแบบ  Selected Shop โดยคัดสรรหาสินค้าและบริการเพื่อเป็น Solution ที่จะเติมเต็มและแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตในบ้าน  อำนวยความสะดวกสบายให้กับคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “ทุกคน สามารถทำให้บ้านเป็นที่เสริมพลังได้ทั้ง การทำงาน การพักผ่อน ทำกิจกรรมยามว่าง เพื่อสุขภาพกายและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น”

• ทุ่ม400ล้านลุย We Home

                สำหรับการลงทุน We Home จะใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท บนที่ดินฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ขาเช้ากรุงเทพฯบนเนื้อที่ 13 ไร่ เป็นพื้นที่หน้าร้านกว่า 1,600 ตร.ม. แบ่งเป็นแผนกสินค้าที่จัดเป็นโซนที่ไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาหลักๆโดยแนวคิดนี้ได้จัดแบ่งหมวดและโซนสินค้าออกเป็น 13 โซนของปัญหาหลักๆ

 

ที่ผู้คนพบเจอในปัจจุบัน และ อีก 1 หมวดพิเศษคือ We Home Collection ที่เป็นสินค้าที่เรานำเข้ามาเอง นอกจากนี้ภายในอาคารยังอำนวยความสะดวกสบายไว้ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ และมี co-working space ไว้คอยบริการอีกด้วย

“คำว่าให้บริการ WE HOME เป็นธุรกิจสร้างคุณภาพชีวิตให้ผู้อยู่อาศัย  โดยคิดว่าทุกอย่างเริ่มต้นได้ที่บ้านแล้วถ้าเราทำที่บ้านได้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดี เป็นการส่งมอบวิธีแก้ปัญหาภายในบ้านเป็นโซลูชั่น คือปกติแล้วที่อื่นเขาอาจจะเป็นเชิงการจัดจำหน่ายสินค้า เราต้องการจัดจำหน่ายโซลูชั่นให้ลูกค้า

แบ่งออกเป็น 12 solutions และอีก 1 collection ได้แก่ 1. Zero Accident  2. Zero Unpleasant Creature 3. Zero Waste 4. Zero Noise 5. Zero Smell 6. Zero Germ 7. Clean Water 8. Clean Air 9. Save Energy 10. Fit & Firm 11. Recreation 12. Happy Kids และ Work from Home 13. WE HOME Collection (จะเป็นสินค้าของเขาเอง ที่เป็นแบรนด์นำเข้ามาเอง ผลิตเอง (เฟอร์นิเจอร์) บริษัทในเครือ)”

               

นางสาวมัณฑิตา อธิบายต่อว่า การทำหน้าที่เป็นโซลูชั่นแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าจะมององค์รวม ไม่ใช่การขายสินค้าเป็นชิ้น โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีเพื่อ ให้คำปรึกษา แนะนำกับลูกค้า อย่างเช่นลูกค้ามีปัญหาเรื่องการนอนหลับอาจจะไม่ได้ ต้องการแค่หมอน แต่อาจจะมองไปถึงการปรับสภาพอากาศ ความเงียบ ก็จะแนะนำอุปกรณ์ให้เป็นแบบองค์รวม

 

ด้วยการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าแต่ละคน โฮมสโตร์ จะแต่งตกเป็นในรูปแบบของ exhibition มีอุปกรณ์เครื่องใช้ให้ลูกค้าได้เลือกและลองใช้ ได้ทดสอบประสิทธิภาพถึงความต้องการที่เหมาะสม ให้ลูกค้าได้เห็นบริบทในการใช้งานจริง ของสินค้าแต่ละอย่าง เพื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อได้อย่างถูกต้องและตรงกับความต้องการมากที่สุด

 

• เจาะรังสิตรับเติบโต 5-6%ต่อปี

               

ทั้งนี้รูปแบบ ในการให้บริการจะเป็น O2O (offline to online) มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งแบบออนไลน์  (e-commerce) และ ออฟไลน์ (หน้าร้าน) โดยเฟสแรกจะเป็น ส่วนออนไลน์ไลน์ เว็บไซด์ ให้ลูกค้าเข้ามาดูและสั่งซื้อสินค้าได้ ในวันที่ 1 เมษายน 2565 และจะเปิดในส่วนของ Home Store ในเดือนสิงหาคมนี้สาขาแรกที่ย่านรังสิต

 

โดยพัฒนาเป็น Life Style Mall จะสามารถดึงคนได้ และพื้นที่รังสิต เป็นพื้นที่เปิด มีการเติบโตต่อเนื่อง เป็นย่านที่พักอาศัย ย่านของมหาวิทยาลัย การเดินทางเส้นพหลโยธินรังสิตก็สะดวก อีกทั้งย่านนี้ ยังมีอัตราการเติบโต 5-6% ต่อปี สำหรับพื้นที่ก่อสร้าง We Home มีจำนวน 13 ไร่ ติดเส้นพหลโยธิน เชื่อว่าจะทำให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการได้ตรงจุดและง่ายยิ่งขึ้น

• ตั้งเป้าปีแรกโกย200ล้านบาท

               

กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี โฮม ดีสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวอีกว่า การลงทุนใหม่นี้ตั้งเป้ายอดขายในปีแรกที่ 200 ล้านบาท   จะทำการตลาด ใช้ช่องทางออนไลน์ทั้งสื่อ และ influencer ในการโปรโมตแนวคิดและสินค้าในระยะแรกเพื่อสร้างการรับรู้ และความน่าสนใจของเราไปยังกลุ่มเป้าหมาย

 

โดยใช้ปัญหาที่คนส่วนใหญ่เผชิญอยู่ในการปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงบ้าน มาจัดเป็นโซนให้ง่ายต่อการค้นหาสินค้าในกลุ่มของปัญหานั้น ๆ และนอกจากนี้ จะคัดสรรหาสินค้าที่ตอบโจทย์ หรือแก้ไขปัญหาที่ผู้คนต้องพบเจอในชีวิตประจำวันได้อย่างง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สำเร็จได้ด้วยตัวเอง (life-hacked products) เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ได้ที่ We Home Store

• เห็นสัญญาณบวก

               

สำหรับภาพรวมการแข่งขัน  ปัจจุบันมองว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น จากการที่ต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านนานขึ้น ในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา รวมทั้งยอมจ่ายเงินเพื่อความสะดวกสบาย กับสิ่งที่จะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดแรง และสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นแนวทางหลักที่ WE HOME ใช้ในการสรรหาสินค้าเพื่อมาตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ รวมทั้งการช้อปออนไลน์ที่เป็น platform สำคัญในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งทางเราก็ได้เตรียมตัวเปิดผ่านเวปไซต์ของ  WE HOME

               

ส่วนสาเหตุที่กล้าแตกไลน์ธุรกิจมองเห็นสัญญาณบวกตรงที่ลูกค้าหันมาสนใจการตกแต่งบ้านมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นเราจะเน้นการสร้างแบรนด์ดิ้งก่อน เรามีวิชั่นในการคัดสรรและเลือกหาสินค้า สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับลูกค้าได้ เป็นสินค้าที่เราจะนำมาให้บริการต้องมีนวัตกรรมที่น่าสนใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

 

แทนที่จะทำส่งเสริมการตลาดโดยออกโปรโมชั่นในช่วงเดือนเมษายน มีลูกค้าเข้ามา Shopping สินค้าในแต่ละโซลูชั่น ถึงรายการโดยสามารถลุ้นซื้อได้ในราคาเพียง 99 บาท โดยจะทำให้เราวัดได้ว่าลูกค้าสนใจสินค้ารายการใดมากเป็นพิเศษ ก่อนที่เราจะมีการเปิด Opening ช่วงเดือนสิงหาคม

 

ทำให้มั่นใจว่า ลูกค้ามีความต้องการ และมีกำลังซื้อ จึงกล้าที่จะลงทุน ในขณะนี้ยังไม่มีธุรกิจที่คัดสรรสินค้าและบริการ

 

เพื่อมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าในรูปแบบของโซลูชั่นแก้ไขปัญหาแบบนี้ ทำให้ WE HOME เป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ สำหรับผู้ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เพราะว่ามีการเติบโตอย่างแน่นอนเพราะเราเห็นตัวเลขการขอเปิดธุรกิจใหม่ใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้านที่เพิ่มขึ้นด้วยในปีที่ผ่านมา

               

นอกจากนี้ส่วนตัวคิดว่าในธุรกิจอื่นยังต้องรอการฟื้นตัว ส่วนของธุรกิจอสังหา ธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ธุรกิจเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านยังมีอัตราการเติบโตโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ การสำรวจพบว่าผู้ประกอบการธุรกิจรายใหญ่ มีอัตราเติบโตถึง 150%

 

แสดงให้เห็นได้ว่ามีความต้องการมีดีมานด์ ควรเริ่มลงทุนตอนนี้เพราะถ้ารอให้ทุกอย่างพร้อมก็จะทำธุรกิจตามคนอื่นไม่ทัน ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็มีแผนที่จะเปิดโครงการแนวราบในย่าน คลอง 10 การทดลองตลาดและความต้องการของลูกค้าเนื่องจากว่าเป็นโครงการแรกของบริษัท

               

โดยภาพรวมประเมินว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของ We Home Store ลูกค้า จะแบ่งเป็นสองกลุ่มหลักคือหนึ่งกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ มีกำลังซื้อและมีเวลาไปให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องความเป็นอยู่ในบ้านอย่างมาก และกลุ่มเจนเอ็กซ์ ซึ่งมีความต้องการปรับปรุงพัฒนาที่พักอาศัยหรือแยกออกไปที่ส่วนตัว จะได้ตบแต่งบ้านสะท้อนในสิ่งที่ตัวเองชอบ