“ไทยออยล์” สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน เพื่อร่วมขับเคลื่อนทุกความฝัน

25 เม.ย. 2567 | 09:32 น.

ทุกความฝัน ทุกความสำเร็จ ขับเคลื่อนด้วยพลังที่อยู่เบื้องหลัง เช่นเดียวกับ “ไทยออยล์” ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอยู่เบื้องหลัง เพื่อร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนให้ทุกความฝัน 

ทั้งนี้ หากลองสำรวจรอบตัวจะพบว่ามี “ไทยออยล์” อยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน เช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล มาตรฐานยูโร 5 สารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น น้ำยาทำความสะอาด ผงซักฟอก และเคมีภัณฑ์ขั้นต้นในการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ที่นำมาทำเป็นเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ 

ไทยออยล์มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์อย่างยั่งยืน” หรือ “Empowering Human Life through Sustainable Energy and Chemicals” 

นอกจาก ไทยออยล์จะผลิต และจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมสำเร็จรูป ยังขยายการลงทุนครอบคลุมไปถึงธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจเอทานอล และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่เป็น New S-Curve เพื่อตอบสนองกับ Megatrend ของโลกไปด้วย

อย่างไรก็ดี เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงบริหารความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่แน่นอนและความท้าทาย โดยเฉพาะทิศทางของเทรนด์โลกที่ขณะนี้ต่างมุ่งสู่ความยั่งยืน ไทยออยล์จึงได้ ดำเนินการตามวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ เพื่อนำไปสู่การเติบโตที่สอดรับกับความเปลี่ยนแปลง 

โดยไทยออยล์มีเป้าหมายสัดส่วนของของกำไรในปี 2030 ดังนี้ ธุรกิจปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงของปิโตรเลียม 45% (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 70%) ธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงของปิโตรเคมี 30% ธุรกิจใหม่ (New S-Curve) 20% และธุรกิจไฟฟ้า 5%


แผนกลยุทธ์ 3Vs ที่จะผลักดัน เร่งรัดการขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย

1. Value Maximization 

มุ่งสร้างประโยชน์จากพื้นฐานที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดผ่านโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP)  และสร้างคุณค่าเพิ่มจากการลงทุนธุรกิจโอเลฟินส์ ในบริษัท PT Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP) ผู้ผลิตปิโตรเคมีชั้นนำของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อก้าวข้ามไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย และโอกาสสร้างการเติบโตทางธุรกิจอื่นๆ ในตลาดอินโดนีเซียที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง

2. Value Enhancement 

การบูรณาการห่วงโซ่คุณค่าร่วมกันภายในกลุ่มไทยออยล์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดในประเทศและขยายตลาดไปยังประเทศเป้าหมายในภูมิภาค รองรับการกระจายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มไทยออยล์ ผ่าน บริษัท TOPNEXT ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย และทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของกลุ่มไทยออยล์

3. Value Diversification 

ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ๆ  ที่เป็น New S-Curve ที่สอดคล้องกับแนวโน้มธุรกิจในอนาคต   โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีมูลค่าสูง (HVB) เช่น ธุรกิจสารเคมีสำหรับยับยั้งและกำจัดเชื้อโรค และสารลดแรงตึงผิวที่ใช้ในอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Disinfectants & Surfactants) และธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ  

รวมถึงการลงทุนและสร้างธุรกิจผ่าน Corporate Venture Capital (CVC) โดยจะมุ่งเน้นใน 3 กรอบธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มManufacturing Intelligence Technology กลุ่ม Sustainability Technology และกลุ่ม New Energy and Mobility Technology นอกจากนั้น ยังสร้างรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจไฟฟ้า ผ่านการดำเนินการของโรงไฟฟ้า TOP SPP ของกลุ่มไทยออยล์ และสร้างการเติบโตผ่านการลงทุนในบริษัท GPSC ซึ่งเป็น Flagship ด้านโรงไฟฟ้าในกลุ่ม ปตท.
 


 

เพื่อขับเคลื่อนไทยออยล์ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน  “TOP for the GREAT FUTURE” ไทยออยล์ใช้แนวทางดำเนินงานที่เรียกว่า “TOP” ซึ่งประกอบด้วย

T (Transformation): ปรับโฉมองค์กรในทุกมิติ ทั้งเรื่องธุรกิจ พัฒนาคนและองค์กร นวัตกรรม การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือกระบวนการทำงาน (Digitalization)และการเงิน เพื่อให้พร้อมสำหรับธุรกิจในอนาคต

O (Operational to Business Excellence): ยกระดับสู่ระบบการบริหารธุรกิจเชิงบูรณาการเพื่อความเป็นเลิศ (Business Excellence) ด้วยเทคโนโลยีและระบบงานที่เป็นระดับสากล รวมถึงทีมงานมืออาชีพ

P (Partnership & Platform) ): การสร้างการเติบโตด้วยแนวทางความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่สำคัญทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการด้านความยั่งยืนก็เป็นอีกหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยออยล์ โดยได้มีการกำหนดกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่เรียกว่า 3E ประกอบด้วย

Enhance Clean Environment ยกระดับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับทิศทางของโลก ซึ่งมีเป้าหมายการมุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2050 และ Net Zero GHG Emission ภายในปี 2060

Engage Society เสริมสร้างความผูกพันควบคู่กับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคม เพื่อเติบโตร่วมกันในระยะยาว

Ensure Good Governance การสร้างความเชื่อมั่นด้านบรรษัทภิบาลและความโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และมีจริยธรรม ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ขณะที่ยังคงความยืดหยุ่นคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ 

แม้ว่าไทยออยล์จะเจอความท้าทายหลากหลาย เช่น การเปลี่ยนผ่านพลังงาน เทรนด์การใส่ใจสิ่งแวดล้อม ก็ยังสามารถบริหารจัดการความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพรอบด้านในระดับสากลสะท้อนได้จากการที่ไทยออยล์ได้รับการรับรองเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 และได้รับคะแนนประเมินสูงสุดของอุตสาหกรรมการตลาดและการกลั่นน้ำมันและก๊าซเป็นปีที่ 8

เรียกว่าไทยออยล์ ให้ความสำคัญกับการเติบโตของธุรกิจที่สอดคล้องไปกับเทรนด์โลก รวมถึงมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่อยู่รอบตัว เพื่อเป็นพลังเล็ก ๆ ในการขับเคลื่อนทุกคนไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน