องคมนตรีติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

31 ส.ค. 2566 | 10:15 น.

องคมนตรีและคณะ ติดตามผลการดำเนินงานโครงการทำนบดินพร้อมระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านบ่อน้ำผุด อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ และ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมด้วยนายวิกรม คัยนันทน์ ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะอนุกรรมการฯ

โดยมีนายชุตินทร เพ็ชรไชย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผนและโครงการ) นายก่อพงศ์ เจ้ยแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 15 นายสมสวัสดิ์ ฉายสินสอน ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี นางสาวจันทร์จิรา อักษรณรงค์ ผู้อำนวยการส่วนติดตามและประเมินผล กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานโครงการทำนบดินพร้อมระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านบ่อน้ำผุดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ซึ่งโครงการดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ตามที่ราษฎร หมู่ที่ 7 ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม ขอพระราชทานความช่วยเหลือ เนื่องจากประสบความเดือดร้อน ขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในหน้าแล้ง

โดยโครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2557 มีลักษณะโครงการเป็นทำนบดิน กว้าง 6 เมตร สูง 5 เมตร ยาว 50 เมตร ความจุ 40,000 ลูกบาศก์เมตร และขุดลอกคลองระยะทาง 226 เมตร พร้อมก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า มีระบบท่อส่งน้ำ ความยาวรวม 11,630 เมตร และก่อสร้างบ่อพักน้ำขนาดความจุ 750 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 แห่ง

ปัจจุบันยังสามารถใช้การได้ดี สามารถส่งน้ำสนับสนุนการอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรบ้านบ่อน้ำผุด หมู่ที่ 7 บ้านทรายขาว หมู่ที่ 9 และบ้านร่มจิตต์ และหมู่ที่ 10 ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 625 ครัวเรือน ประชากร จำนวน 1,512 ราย รวมถึงส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตร ประมาณ 2,000 ไร่ ได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ราษฎรสามารถปลูกพืชได้หลากหลายชนิดตลอดปี ส่งผลให้มีรายได้ คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

จากนั้นได้พบปะเยี่ยมเกษตรกร และผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ พร้อมตรวจเยี่ยมสภาพพื้นที่โครงการทำนบดินพร้อมระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านบ่อน้ำผุดฯ