พัฒนาอ่างเก็บน้ำ ‘น้ำรี’ ลดปัญหาน้ำแล้งจังหวัดน่าน

07 เม.ย. 2566 | 02:30 น.

กรมชลประทาน เร่งพัฒนาอ่างเก็บน้ำ ‘น้ำรี’ ลดปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นลอนลาดชัน ที่มักประสบปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่

การพัฒนา “โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ของกรมชลประทาน มีจุดเริ่มต้นจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2560 ณ โรงเรียนบ้านน้ำรีพัฒนา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน 

ให้กรมชลประทาน และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) จัดหาน้ำให้โรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดปี

การดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำรี จะเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนให้อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และลดปัญหาภัยแล้งในอำเภอทุ่งช้าง และอำเภอเชียงกลาง เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นลอนลาดชัน ที่มักประสบปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ 

โครงการดังกล่าวต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำหนดเกี่ยวกับป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม ที่ให้โครงการอ่างเก็บน้ำในป่าอนุรักษ์ตั้งแต่ 500 ไร่ ขึ้นไป ต้องทำรายงาน EIA ประกอบการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้

กรมชลประทานนำรายงาน EIA เสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ในการพิจารณาครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2565 มีมติให้นำรายงาน EIA ที่แก้ไขแล้ว เสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เพื่อให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของ คณะรัฐมนตรีต่อไป 
สำหรับที่ตั้งโครงการอยู่หมู่ที่ 10 บ้านกิ่วจันทร์ ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เป็นเขื่อนหินถม 

มีความจุที่ระดับกักเก็บ 46.09 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อดำเนินการเสร็จจะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภคบริโภค ให้แก่ส่วนราชการและราษฎรในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอทุ่งช้าง และอำเภอเชียงกลาง ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์ถึง 22,100 ไร่ อีกทั้ง ยังช่วยบรรเทาปัญหาอุกภัยให้กับบริเวณพื้นที่ริมลำน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรประมาณ 1,030 ไร่ เสริมสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำ และความยั่งยืนด้านการบริหารจัดการน้ำให้กับราษฎรในพื้นที่ อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไปในอนาคต