"รู้ใจ"ผู้ให้บริการประกันภัยออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย เติบโตอย่างแข็งแกร่ง กวาดรายได้จากเบี้ยประกันภัย 1.1 พันล้านบาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2564
นายนิโคลัส ฟาเกต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งรู้ใจเปิดเผยว่า ปีนี้จะเป็นครั้งครั้งของบริษัทภายใต้การร่วมทุนในตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันวันออกเฉียงใต้
กำหนดเเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันภัย 2 รายการในอินโดนีเซีย โดยความร่วมมือกับสมโปะ อินโดนีเซีย บริษัทประกันภัยชั้นนำของเอเชีย ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวประกันภัยรถยนต์ในประเทศอินโดนีเซียภายในสิ้นปี 2565
สำหรับประเทศไทย ภายในปี 2565 รู้ใจตั้งเป้าที่จะเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยการเปิดตัว แอปพลิเคชัน เทเลเมติกส์และประกันสำหรับรถยนต์ที่มีเลขไมล์ต่ำ ประกันโรคร้ายแรง
แผนประกันชดเชยรายได้ขณะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และแผนประกันสุขภาพส่วนบุคคลเต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของรู้ใจจะเริ่มออกสู่ตลาดครึ่งแรกของปี 2566
“ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องสุขภาพและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่รู้ใจยังคงรักษาผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งไว้ได้ เรารู้สึกยินดีที่คนไทยให้ความสำคัญกับประสบการณ์การซื้อประกันที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาของรู้ใจ ตลอดจนให้ความไว้วางใจให้เราช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยากลำบาก นับตั้งแต่วันที่เราเปิดตัวในปี 2559 เราได้มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดยั้ง และเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอย่างต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป”
ที่ผ่านมาในปี 2564 หัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรู้ใจ คือ การเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย การมอบประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับลูกค้า และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยรู้ใจได้เข้าสู่ตลาดความคุ้มครองด้วยการเปิดตัวประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันโรคมะเร็ง และประกันความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด19 ส่งผลให้การรับรู้แบรนด์ของรู้ใจเพิ่มขึ้นใน ชาวไทย 25% ทำให้บริษัทประกันภัยน้องใหม่ที่ก่อตั้งมา 6 ปีอย่าง รู้ใจ กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ประกันภัยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศ
คุณนิโคลัส ฟาเกต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งรู้ใจ กล่าวว่า เรามุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ไม่ซับซ้อน ราคาดีและเชื่อถือได้ ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราจึงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการมุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ใส่ใจต่อความพึงพอใจของลูกค้า
และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยอย่างเหมาะสม เป็นกลยุทธ์ที่เรามาถูกทาง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างแพลตฟอร์มที่ยั่งยืน และจะช่วยสานต่อความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง
ในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา รู้ใจสามารถจัดการการเคลมได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะเดียวกันยังพัฒนาการให้บริการและปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า โดยมีผลความพึงพอใจในการเคลมอยู่ที่ 9.1 จาก 10