KBANKคาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.70-34.20 บาทต่อดอลลาร์สัปดาห์ถัดไป -บล.กสิกรไทยมองดัชนีหุ้นไทย ดัชนี "SET" แนวรับที่ 1,675 และ 1,660 จุด
ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.70-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯในสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 25-29 เม.ย.2565 ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
ได้แก่ สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ หลังการจ่ายปันผลของบจ. และผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. จีดีพีไตรมาส 1/65 และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เงินบาทปิดตลาดที่ 33.93 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันอังคารก่อนหน้า (12 เม.ย.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 18-22 เม.ย. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,292.46 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ในตลาดพันธบัตร 11,686 ล้านบาท (มาจาก การขายสุทธิพันธบัตร 4,167 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 7,519 ล้านบาท)
บล.กสิกรไทยมองดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ถัดไป แนวรับที่ 1,675 และ 1,660 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,700 และ 1,710 จุด ตามลำดับ
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด(บล.) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,675 และ 1,660 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,700 และ 1,710 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 ของบจ.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมี.ค. รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/65 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BoJ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ของจีน ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/65 และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ (22 เม.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,690.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.97% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 70,003.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.26% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 5.07% มาปิดที่ 688.90 จุด