ฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้าให้เรียว โดยไม่ต้องผ่าตัด ใครบ้างควรทำ?

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เป็นทางออกให้กับผู้ที่มีคางสั้น สามารถช่วยทำให้หน้าวีเชฟขึ้นได้ เจ็บตัวน้อย ไม่เสี่ยงต่อผิวหนังอักเสบ แถมยังช่วยให้คางดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะเลือกตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คางใครที่กังวลมีอันตรายซ่อนอยู่หรือเปล่า บทความนี้สามารถไขข้อสงสัยให้กับคุณได้ ไปดูพร้อมๆกันค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์คางคืออะไร?

ฉีดฟิลเลอร์คาง คือ การเติมสารประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ สาร HA เพื่อช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายตรงบริเวณคาง เหมือนเป็นการเสริมคาง ปรับทรงคาง ช่วยแก้ไขคางสั้น คางตัด คางถอย ให้คางดูยาวขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้นอีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

1.ช่วยเติมเต็มบริเวณเนื้อคาง เป็นการเปลี่ยนรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น

2.ช่วยเสริมคางให้ดูยาวขึ้น ที่ไม่ต้องมีการผ่าตัดศัลยกรรม

3.ช่วยให้เนื้อคางที่มีร่องบุ๋ม ให้กลับมาเท่าเทียบกันได้

4.ช่วยทำให้โดยรวมของใบหน้า ดูวีเชฟมากยิ่งขึ้น

5.ช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร?

1.เหมาะกับผู้ที่มีคางสั้นแต่ไม่สั้นจนเกินไป เพื่อช่วยให้คางดูยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมขาติ

2.เหมาะกับผู้ที่มีคางทรงตัด เพื่อช่วยให้คางได้รูปทรงและเข้ากับใบหน้าได้มากขึ้น

3.เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อคางเป็นร่องๆเนื้อคางบุ๋มดูไม่เท่ากัน เพื่อช่วยเติมเต็มให้เนื้อคางกลับมาดูเรียวขึ้นอีกครั้ง

4.เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรูปทรงคางใหม่ ที่ไม่อยากผ่าตัด หรือมีรอยแผลเป็น

5.เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมให้รูปคางเดิมดูยาวขึ้น เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูวีเชฟอยู่ตลอดเวลา

ฉีดฟิลเลอร์คางอันตรายไหม?

ฉีดฟิลเลอร์คางจะให้ปลอดภัยได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ ว่ามีการเทคนิคในการหัตถการที่ถูกหรือไม่ รวมถึงต้องใช้ สารเติมเต็มที่เป็น Hyaluronic Acid แท้ เพราะการใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นจุดที่แพทย์ต้องมีความระมัดระวังมากๆ ฉีดตัวยาไม่ลึกพอ ก็อายจะทำให้โดนกล้ามเนื้อ และ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวยามากองรวมกันเป็นก้อน เสียรูปทรงได้

ฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน?

ระยะการคงอยู่ของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับการเลือกยี่ห้อและรุ่นของตัวยาด้วย เพราะตัวยาที่จะต้องใช้หัตถการตรงบริเวณคางนั้นต้องเป็นตัวยาชนิดที่มีความคงตัวสูง เนื่องจากคางเป็นตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย หลังการทำหัตถการหากดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำ ก็สามารถอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน

ฟิลเลอร์คางต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่?

โดยส่วนใหญ่แพทย์จะใช้ปริมาณ 1 cc ถือว่าเป็นปริมาณที่มีความพอเหมาะ สามารถจัดส่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ และ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแล้ว (หากมีการใช้ตัวยาที่มากว่า1cc.ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแพทย์ที่รักษาในเคสนั้นๆ)

ฉีดฟิลเลอร์คางเจ็บไหม?

ความเจ็บของแต่ละบุคคลจะไม่เท่ากัน และในตัวยาบางรุ่นจะผสมยาชาไว้ด้วย สำหรับใครที่กลัวเจ็บมากๆ ก็สามารถแจ้งให้แพทย์แปะหรือฉีดยาชาก่อนได้ ในระหว่างหัตถการแพทย์จะมีการใช้น้ำแข็งมาประคบเพื่อลดอาการเจ็บร่วมด้วย คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆแต่จะรับรู้แค่ เย็นๆชาๆเท่านั้น

อยากให้สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปอยู่ได้นานนานควรทำอย่างไร?

1.ควรเลี่ยงการเท้าคาง เพื่อให้รูปทรงคางไม่ผิดแปลงไป

2.ไม่ควรนอนคว่ำหน้า เพื่อป้อนกันไม่ให้ตัวยาเคลื่อนที่ได้ง่าย

3.ไม่ควรสวมหมวกกันน็อคที่มีการรัดแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดรอยช้ำรอยบุ๋มขึ้นได้

4.ควรดื่มน้ำให้มากๆเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

5.อย่าโดนความร้อน หรือ ขยับ บีบ นวด แกะ เกาอย่างรุนแรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้ตัวยามีการสลายตัวได้เร็วขึ้น

เลือกฉีดฟิลเลอร์คางที่คลินิกไหนดี?

1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง

2. เลือกคลินิก ที่มีแพทย์ที่มากประสบการณ์เพื่อสามารถมรการวิเคราะห์ และประเมินการออกแบบรูปทรงได้

3. เลือกคลินิก ที่ใช้ตัวยาแท้เท่านั้น ที่ผ่าน อย.อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ แพทย์ควรมีการเปิดกล่องให้ดูต่อหน้าทุกๆครั้ง

4. เลือกคลินิก ที่มีชื่อเสียง มีเครื่องมือที่สะอาด และมีการรีวิว ทุกๆช่องทางที่สำคัญต้องมีเบอร์โทรติดต่อตลอด 24 ชั่วโมง

5. เลือกคลินิก ที่มีการแจ้งราคาไว้อย่างชัดเจน เพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนทุกครั้ง

เช็คฟิลเลอร์แท้ปลอมเราจะสามารถเช็คได้อย่างไร?

ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ต้อมีการตรวจเช็คให้มั่นใจว่าสารที่ใช้นั้นเป็น Hyaluronic Acid ของแท้หรือไม่ โดยดูได้จาก