พิษคดีฟอกเงิน“พรรคประชาชน”ขอโทษชาวบางพลัด-บางกอกน้อย เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.

29 ธ.ค. 2568 | 04:47 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ธ.ค. 2568 | 04:58 น.

พรรคประชาชนขอโทษชาวบางพลัด-บางกอกน้อย เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. หลังพบ “บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์” ถูกออกหมายจับคดีฟอกเงิน

KEY

POINTS

  • พรรคประชาชนประกาศเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย หลังพบว่า นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ถูกออกหมายจับในคดีฟอกเงิน
  • พรรคได้แถลงขอโทษประชาชน โดยชี้แจงว่า หมายจับออกมาหลังจากกระบวนการตรวจสอบประวัติผู้สมัครเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้พรรคไม่ทราบเรื่องมาก่อน
  • พรรคยืนยันว่า จะเปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ทันที และจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด โดยย้ำจุดยืนต่อต้านการทุจริตและทุนสีเทา

วันที่ 29 ธันวาคม 2568 พรรคประชาชนจัดแถลงข่าวด่วน โดย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค และผู้รับผิดชอบแคมเปญเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อเวลา ประมาณ 07.00 น. ตนได้โทรศัพท์เพื่อติดตามกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงช่วงปีใหม่ของ นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส.เขตบางพลัด–บางกอกน้อย และได้รับแจ้งว่า เจ้าตัวถูกออกหมายจับในคดีฟอกเงิน โดยพบว่า มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกเชื่อมโยงกับการกระทำผิดดังกล่าว

นายพิจารณ์ กล่าวว่า พรรคได้ตรวจสอบประวัติผู้สมัครทุกคนก่อนยื่นสมัคร โดยไม่เคยมีหมายเรียกมาก่อน และหมายจับถูกออกเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงหลังจากกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้พรรคไม่ทราบข้อมูลจนมาทราบเมื่อเช้าวันนี้ ขณะตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้สมัคร 

“ผมต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะชาวบางพลัด–บางกอกน้อย” นายพิจารณ์กล่าว พร้อมยืนยันว่า พรรคไม่เคยมีความพยายามปกปิดหรือคุ้มครองผู้สมัครที่มีปัญหากฎหมาย และเมื่อได้รับทราบเรื่องได้รีบแจ้งให้ผู้สมัครทราบ รวมถึงแถลงต่อสาธารณะทันทีเพื่อความโปร่งใส

พรรคประชาชนยืนยันว่าจะ เปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ทันกรอบเวลา ก่อนปิดรับสมัครวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ส่วน นายบุญฤทธิ์ จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน และพรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซง ซึ่งการออกหมายจับสะท้อนว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานในระดับหนึ่ง และต้องเปิดทางให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไป

นายพิจารณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชาชนยึดหลัก “มีส้ม ไม่มีเทา” ไม่ใช่เพียงวาทกรรมหาเสียง แต่เป็นหลักปฏิบัติที่ต้องยึดมั่น โดยกรณีนี้ถือเป็นบทเรียน และพรรคจะปรับกระบวนการคัดสรรผู้สมัครให้เข้มขึ้นทุกการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก 

พร้อมขอโทษประชาชนที่อาจทำให้เกิดความผิดหวัง และขอให้เห็นถึงความรวดเร็วในการแก้ไขสถานการณ์เป็นการยืนยันจุดยืนของพรรคในการต่อต้านการทุจริตและทุนสีเทา

“อนาคต หากพรรคได้รับโอกาสบริหารประเทศ เราจะไม่ใช้อำนาจผิดทาง ไม่ปกป้องเครือข่ายพวกพ้องที่กระทำผิดกฎหมายอย่างแน่นอน” นายพิจารณ์ทิ้งท้าย