KEY
POINTS
พรรคไทยสร้างไทยประกาศความพร้อมก้าวเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างเต็มตัว ผ่านงานรวมพลแสดงพลังแม่ทัพและขุนพลไทยสร้างไทย โดยมุ่งเน้นการเป็นพรรคการเมืองสีขาว ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และนโยบายปราศจากการคอร์รัปชันอย่างสิ้นเชิง
ภายใต้การนำของคณะผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิที่ตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงถึงความเป็นทีมมืออาชีพที่มีประสบการณ์จริง และมีผลงานความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ พร้อมอาสาเข้ามาคลี่คลายวิกฤตประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ความมั่นคงสมัยใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างยั่งยืน
ในด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ประธานยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ได้นำเสนอแนวคิดสำคัญคือ Big Cleaning และ Big Fighting เพื่อขับเคลื่อนการเมืองสุจริต โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี และโปรแกรมเมอร์เข้ามาตรวจสอบการทำงานของภาครัฐเพื่อความโปร่งใส แบบไม่เกรงใจผู้มีอิทธิพล
พร้อมประกาศสงครามกับ 4 ปัญหาหลักที่ฉุดรั้งประเทศ ได้แก่ การยุติความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การกวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ การขจัดคอร์รัปชัน และ การพิชิตความเหลื่อมล้ำทางสังคมทุกรูปแบบ
สำหรับแนวทางการแก้ไขความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พล.ท.ภราดร ย้ำว่า ต้องใช้ยุทธศาสตร์สถาปนาความมั่นคงบนพื้นที่ชายแดน แทนการใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว โดยเน้นการป้องกันตนเองเชิงรุกภายใต้กฎสากล การจัดระเบียบพื้นที่เพื่อคุมเข้มอาชญากรรม และการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพ กับ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้แจงต่อประชาคมโลกในรูปแบบสงครามไฮบริด
ทั้งนี้ยังให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ทั้งด้านรายได้ และ ความหลากหลายทางเพศ เพื่อเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดึงดูดนักลงทุนให้กลับมาเชื่อมั่นในประเทศไทยอีกครั้ง
ด้านแม่ทัพเศรษฐกิจ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ได้เปิดแผน Restart ประเทศไทย โดยเน้นย้ำ ถึงการทำงานที่ต้องเริ่มจากเป้าหมายที่ชัดเจน คือ การคืนศักดิ์ศรีให้คนไทย พร้อมนำประสบการณ์จากภาคธุรกิจระดับโลกมาพิสูจน์ว่า คนไทยมีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมระดับสูงได้เอง
โดยชูนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ ขอนแก่นโมเดลเป็นต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ต้องรอพึ่งพางบประมาณส่วนกลางเพียงอย่างเดียว เพื่อมุ่งแก้ปัญหาหนี้สินและเพิ่มรายได้ให้ประชาชนใน 7 ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอแนวคิด Mar Is My ซึ่งเป็นสมุดปกขาวรวบรวมนโยบายขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กและภาคธุรกิจ SME เข้าถึงทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียม ผ่านสองกลไกสำคัญคือ Tokenize Thailand ที่ใช้เทคโนโลยีโทเคนสร้างมูลค่าใหม่ให้ทรัพย์สินและสินค้าเกษตรในตลาดโลก
และ Automate Thailand ที่นำระบบอัตโนมัติมาสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อแก้ปัญหาแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
โดยยืนยันว่าพรรคไม่ได้เน้นนโยบายประชานิยมแบบแจกเงิน แต่เป็นการแจกโอกาสและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้อย่างยั่งยืน