อนุทิน เปิดใจ ‘ยุบสภา’ ทำตามมารยาท-ข้อเสนอ ปชน. ยันปม สว. อยู่นอก MOA

12 ธ.ค. 2568 | 04:43 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2568 | 04:46 น.

นายกฯ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ เปิดใจเหตุผลเลือก ‘ยุบสภา’ รับทำตามข้อเสนอหัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นไปตามมารยาท และขั้นตอนที่มันควรจะเป็น ยันปม สว. อยู่นอก MOA

KEY

POINTS

  • นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ชี้แจงว่าการยุบสภาเป็นไปตามมารยาททางการเมืองและทำตามข้อเสนอของพรรคประชาชน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้ตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
  • ความขัดแย้งเกิดจากประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับ สว. ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่สามารถโน้มน้าวให้ สว. ลงมติตามที่พรรคประชาชนต้องการได้
  • นายอนุทินยืนยันว่าเรื่องของ สว. ไม่เคยอยู่ในข้อตกลง (MOA) ที่ทำร่วมกัน และพรรคภูมิใจไทยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขใน MOA ทุกประการมาโดยตลอด

วันนี้ (12 ธันวาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการยุบสภาว่า ถือเป็นการคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน โดยพรรคภูมิใจไทย เรามี MOA มาเป็นรัฐบาลได้ ก็ต้องยอมรับว่าเพราะพรรคประชาชนให้มาเป็น ส่วนการพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำมาโดยตลอดในสัญญาที่มีต่อกันใน MOA ทั้ง 4-5 ข้อ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิบัติมาโดยตลอด

ส่วนเรื่องในข้อ 28 ไม่เคยพูดกันไว้ใน MOA แต่เมื่อวานหัวหน้าพรรคประชาชนก็ได้แถลงในรัฐสภาว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่โหวตตามที่พรรคประชาชนต้องการ พรรคประชาชนจะไม่ให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย แล้วก็ขอให้พรรคภูมิใจไทย โดยให้นายกรัฐมนตรีได้ยุบสภา ก็ทำตามแล้ว

“ท่านให้ผมมาเป็นนายก แล้วท่านบอกท่านไม่สนับสนุนผม แล้วท่านขอให้ผมยุบสภา ผมก็ทำตามท่าน ก็เป็นไปตามมารยาท และขั้นตอนที่มันควรจะเป็น” นายอนุทิน ระบุ

เมื่อถามว่า ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ ได้มีการพูดคุยหรือเจรจากับพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกัน ประสานงานกัน คนที่ประสานงานหลักก็คือนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า เมื่อหัวหน้าพรรคประชาชนบอกว่าให้ผมยุบสภา ผมก็ยุบ เพราะว่าท่านเป็นคนให้ผมมาเป็น เราก็ให้เกียรติท่าน

ทั้งนี้ที่ผ่านมาถือว่าทำทุกอย่างแล้ว มาจนถึงรัฐธรรมนูญ โหวตวาระ 1 วาระ 2 แล้ว แต่สุดท้ายไปติดอยู่ 1 วาระ ที่เกี่ยวข้องกับ สว. ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่มีความสามารถที่จะไปกดดัน หรือไปบังคับ หรือไปโน้มน้าวให้ สว. เขาลงมติตามที่พรรคประชาชนต้องการได้ และใน MOA ก็ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับ สว. เพราะเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยที่จะพยายามเต็มที่ ไม่เพิ่ม สส. ไม่พยายามเป็นเสียงข้างมาก ทั้งที่ในบริบททางการเมืองเราสามารถพยายามได้ ถ้าจะพยายามแต่ก็ไม่ทำ

ขณะเดียวกันในการดำเนินการเพื่อให้มีประชามติ ก็มีให้ ซึ่งสภาก็เรื่องมีการโหวตเป็นที่เรียบร้อย และถ้าส่งมาถึงคณะรัฐมนตรี ก็ได้เช็คตรวจสอบกับทางฝ่ายกฎหมายแล้ว รองนายกฯ บวรศักดิ์ ก็บอกว่าสามารถที่จะกำหนดวันลงประชามติได้ โดยคณะรัฐมนตรีที่ยังรักษาการอยู่ ซึ่งทั้งหมดก็ทำให้ และรักษาเงื่อนไขตาม MOA ทุกอย่าง โดยไม่มีการหักหลังใด ๆ ทั้งสิ้น

ส่วนในอนาคตอาจจะยังจับมือกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมดครับ ส่วนการยุบสภา เหมือนว่าได้มีการเตีรยมการมาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าหมายความว่า ร่าง พ.ร.ฎ. ยุบสภา ก็เตรียมไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งอยู่แล้ว เพราะคนที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ต้องยอมรับสภาพว่าเราเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เข้ามาเพื่อจัดการปัญหาบ้านเมืองที่มันติดขัดค้างคาให้ผ่านพ้นไปได้ ซึ่งผมก็ได้ทำไปแล้ว

ทั้งเรื่องของการเจรจาการค้า เรื่องของการนำประเทศไทยกลับเข้าสู่เวทีโลก เรื่องของความมั่นคงให้มีความเป็นปึกแผ่น จัดระเบียบข้าราชการ เมื่อถึงจุดหนึ่ง ถ้าคนที่เขานำเราเข้ามาเขาบอกให้เราทำแค่นี้ เราก็ทำแค่นี้ แล้วก็คืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน

ส่วนอำนาจของรัฐบาลนั้น นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลรักษาการก็มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน มีข้อยกเว้นบางอย่าง ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อยกเว้นนั้น ก็ไปขอ กกต. ส่วนไทม์ไลน์ของรัฐบาล ประเมินว่า ถ้าจัดการเลือกตั้ง 60 วัน เสร็จแล้วก็รับรองผลการเลือกตั้งประมาณ 45 วัน จัดตั้งคณะรัฐมนตรีก็อีกประมาณหนึ่งเดือน และเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน รัฐบาลนี้ก็หมดวาระ ซึ่งนับดูก็ประมาณ 5-6 เดือนเท่านั้น

เมื่อถามว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะยุติก่อนที่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราก็ต้องพยายามทำให้เรื่องการปกป้องอธิปไตย เรื่องปกป้องดินแดน ทหารเขาก็ทำเต็มที่อยู่

เมื่อถามต่อว่า ในเมื่อสถานการณ์ชายแดนยังเป็นอย่างนี้ จะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศพร้อมกันได้ไหม นายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่ กกต. ตอนนี้ก็ยังเป็นรัฐบาลอยู่ตามรัฐธรรมนูญ ยังมีการประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคาร และกำลังดูไว้ว่าวันที่ 23 ธันวาคม นี้ ก็ยังคงจะลงไปประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดสงขลา ถือว่า ทำหน้าที่เหมือนปกติ แต่ไม่มีสภาเท่านั้น