'อนุทิน' ประกาศ 4 นโยบายปราบคอร์รัปชันฯ ลั่นไม่ประนีประนอมกับบ่อนทำลายชาติ

09 ธ.ค. 2568 | 05:32 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2568 | 05:48 น.

นายกฯ อนุทิน นำประกาศเจตนารมณ์วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ยืนยันรัฐบาล "ไม่ลังเล ไม่ประนีประนอม" กับผู้บ่อนทำลายชาติ พร้อมมอบ 4 นโยบายหลัก บังคับใช้ ก.ม. เข้มงวด และผลักดันทุกหน่วยงานจัดทำแผนเพิ่มความโปร่งใส ยกระดับดัชนี CPI อย่างเป็นรูปธรรม

KEY

POINTS

  • นายกฯ อนุทิน ประกาศ 4 นโยบายหลักเพื่อปราบปรามการทุจริต โดยยืนยันจุดยืนของรัฐบาลที่จะไม่ประนีประนอมกับผู้ที่ทำลายผลประโยชน์ของชาติ
  • นโยบายทั้ง 4 ข้อ มุ่งเน้นการป้องกันเชิงรุก, การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มความโปร่งใส, การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเสมอภาค และการสร้างวัฒนธรรมความซื่อสัตย์ในสังคม
  • มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 107 ของโลก และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานและนำกล่าวคำประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ภายในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “HERO OF THE TRUTH ร่วมหยุดคอร์รัปชัน” โดยมีผู้แทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ณ ฮอลล์ 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

'อนุทิน' ประกาศ 4 นโยบายปราบคอร์รัปชันฯ ลั่นไม่ประนีประนอมกับบ่อนทำลายชาติ

นายกรัฐมนตรีได้ประกาศจุดยืนของรัฐบาลอย่างชัดเจนต่อหน้าประชาคมโลก

“ในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอประกาศเจตจำนงอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะยืนหยัดต่อสู้กับการทุจริตด้วยความเด็ดขาด ไม่ลังเล ไม่ประนีประนอม ไม่ผ่อนปรน ไม่มีข้อยกเว้น ให้กับผู้ที่บ่อนทำลายผลประโยชน์ของชาติ และพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรม”

ความท้าทายที่ต้อง "ยกระดับ" ดัชนี CPI

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความท้าทายด้านความโปร่งใสที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อศรัทธาของประชาชนและความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยได้อ้างถึง ดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ปี 2567 ซึ่งเดนมาร์กทำคะแนนได้สูงถึง 90 คะแนน และสิงคโปร์ได้ 84 คะแนน ครองอันดับหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก

'อนุทิน' ประกาศ 4 นโยบายปราบคอร์รัปชันฯ ลั่นไม่ประนีประนอมกับบ่อนทำลายชาติ

สำหรับประเทศไทย ได้เพียง 34 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 107 ของโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีช่องโหว่ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง รัฐบาลจึงจะไม่เพียงแต่ "แก้ไข" ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จะ "ยกระดับ" มาตรฐานความโปร่งใสของประเทศให้สูงขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาก้าวหน้า มีความเข้มแข็ง และมีเสถียรภาพตามหลักนิติธรรม

มอบ 4 นโยบายหลัก บังคับใช้สู่ทุกหน่วยงาน

เพื่อให้เป้าหมายการยกระดับความโปร่งใสของประเทศสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายสำคัญ 4 ประการ ให้ทุกหน่วยงานของรัฐนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

  1. การเสริมสร้างระบบป้องกันทุจริตที่รัดกุม: ทุกหน่วยงานต้องกำหนดมาตรการป้องกันทุจริตเชิงรุก โครงการที่ใช้งบประมาณจำนวนมากต้องผ่านการประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด และต้องสร้างระบบตรวจสอบภายในที่เข้มข้น เพื่อให้เห็นผลจริงไม่ใช่เพียงทำตามรูปแบบ
  2. การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพ: ขอให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในการบริการประชาชน เพิ่มการบริการผ่านระบบ e-Service และ One Stop Service เพื่อลดปัจจัยที่เปิดช่องให้เกิดการใช้อำนาจดุลพินิจและการแทรกแซง อีกทั้งยังต้องเปิดเผยข้อมูลภาครัฐให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
  3. การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โปร่งใส และเสมอภาค: เน้นย้ำว่า ผู้ใดทุจริตหรือเอื้อประโยชน์จะต้องถูกตรวจสอบและรับผิดชอบอย่างไม่มีการละเว้น ไม่มีอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรืออยู่ฝ่ายใดก็ตาม ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะให้การปกป้องคุ้มครองและสนับสนุนผู้ที่ซื่อสัตย์อย่างเต็มที่
  4. การเสริมสร้างวัฒนธรรมซื่อสัตย์สุจริตในสังคม: จะต้องมีการปลูกฝังจิตสำนึกด้านจริยธรรมและความโปร่งใสตั้งแต่ในสถานศึกษาและหน่วยงานรัฐ พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทุจริต รวมถึงการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสอย่างจริงจัง เพื่อให้ "คนทำถูก" มีความปลอดภัยที่มั่นคง

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแสดงพลังและมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริต เพื่อร่วมกันปลุกกระแสสังคมและจุดยืนของคนไทยว่า "ไม่ทำ ไม่ทน และไม่เฉย" ต่อการทุจริตอีกต่อไป พร้อมทั้งมอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานตั้งเป้าหมายและจัดทำแผนปฏิบัติการที่ส่งผลต่อการเพิ่มคะแนน CPI เพื่อนำประเทศไทยไปสู่อนาคตที่มั่นคงสำหรับลูกหลาน

หลังการกล่าวเจตนารมณ์ นายกรัฐมนตรีได้นำทุกท่านร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต และแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการทุจริต โดยการเปิดผ้าคลุมสัญลักษณ์ “HERO OF THE TRUTH ร่วมหยุดคอร์รัปชัน” เพื่อแสดงถึงความแน่วแน่ของทุกภาคส่วนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ