กกต.ชงศาลฎีกาฟัน 2 นายหน้าฮั้วเลือก สว. เสนอ 10 ล้านบาท แลก 80 เสียง

04 ธ.ค. 2568 | 06:07 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2568 | 06:27 น.

กกต.ยื่นศาลฎีกาฟัน 2 นายหน้าฮั้วเลือก สว. เสนอต่อรอง 10 ล้านบาท แลก 80 เสียง รับเงินเป็นกิโล จ่ายทุกคนไม่ให้กลับบ้านมือเปล่า โยงว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคดัง

KEY

POINTS

  • กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อดำเนินคดีอาญา และ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งบุคคล 2 ราย ฐานทุจริตการเลือก สว.
  • ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์จัดตั้งเครือข่าย จัดประชุมลับ และ เสนอผลประโยชน์เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนตามที่ตกลงกัน
  • มีการเสนอเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้มีสิทธิเลือก สว. จำนวน 80 คน

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ คำวินิจฉัยให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง พร้อมดำเนินคดีอาญา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 77 (1) กับผู้ถูกร้อง 2 ราย คือ

1. นายธนาวุฒิ แสงอรุณ ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ระดับจังหวัดมหาสารคาม

2.นายสัจจพงษ์ ภูมิศักดิ์ บุคคลภายนอก ไม่ใช่ผู้สมัคร

ภายหลังผลการไต่สวนพยานและตรวจสอบพยานหลักฐานจำนวนมาก ชี้ถึงพฤติการณ์ สมคบคิด วางแผน และ สมยอมลงคะแนน เพื่อบิดเบือนกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ

เปิดแผนประชุมลับโรงแรม-ล่อเงินเป็นกิโล

คำวินิจฉัยระบุว่า นายธนาวุฒิ ให้การยอมรับว่า ตนถูกชักชวนให้ทำหน้าที่จัดหาผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศมา เข้าประชุมที่โรงแรมปทุมธานี เพลส พร้อมมีเจตนาหวัง รับเงินส่วนแบ่งจากกลุ่มผู้เข้าร่วม

พยานผู้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองแห่งหนึ่งให้ถ้อยคำว่า ได้รับ ข้อความผ่านไลน์จาก นายธนาวุฒิ ชักชวนให้ “มาหาประสบการณ์ทางการเมือง” และให้ชวนเพื่อนซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศมาด้วย

ในที่ประชุม พยานพบผู้ถูกร้องที่ 1 เดินทักทายบุคคลต่างๆ พร้อมกล่าวว่า
“ถ้ารู้จักผู้มีสิทธิเลือก สว. ระดับประเทศ ก็ชวนมาได้ คุณเบิร์ดจะให้เงินเป็นกิโล รายละเอียดให้รอฟังจากเจ้าตัว”

พฤติการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับ หลักฐานทะเบียนผู้เข้าพักโรงแรม ที่ยืนยันการเข้าพักของผู้ถูกร้อง รวมถึงพยานแวดล้อมที่บ่งชี้ว่าการประชุมมีเป้าหมายเพื่อ จัดตั้งเครือข่ายโหวต สว.

ดีลใหญ่ 10 ล้าน แลก 80 เสียง

ส่วน นายสัจจพงษ์ ผู้ถูกร้องที่ 2 ถูกกล่าวหาว่า เป็นตัวการสำคัญในการต่อรองผลประโยชน์ โดยชักชวนผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศหลายกลุ่มไปรับประทานอาหารที่ ร้านนิตยาไก่ย่าง สาขาเมืองทองธานี และเสนอเงิน คนละ 200,000 บาท พร้อมเสนออีก 10,000,000 บาท ให้ผู้ร้องซึ่งมีลูกทีมผู้มีสิทธิเลือกในมือ 80 คน

หลักฐาน แชตไลน์ และ ภาพถ่ายช่วงวันที่ 22 – 25 มิถุนายน 2567 แสดงให้เห็นการนัดหมาย ประชุม และการจัดเข้าพักโรงแรม รวมถึงข้อความแนวทางปฏิบัติที่ระบุชัดว่า

-การรวมตัวภายใต้ชื่อ “กลุ่มอิสระ”

-ใช้ ระบบ AI กำหนดหมายเลขลงคะแนนทุกกลุ่ม

-กลุ่มจัดการที่พักและการเดินทางทั้งหมด

-ยืนยันว่า“ทุกคนที่เข้าร่วมจะไม่กลับบ้านมือเปล่า”

พยานบุคคล 3 ปากยืนยันตรงกันว่า นายสัจจพงษ์ ทำหน้าที่ ตัวกลางจัดหาคน–กำหนดแผน–เสนอเงิน

ชี้ชัดทุจริตขัดรัฐธรรมนูญ

กกต.วินิจฉัยว่า การกระทำทั้งหมดเข้าข่าย

-จัดทำ เสนอ และสัญญาให้เงินหรือผลประโยชน์

-เพื่อจูงใจหรือบังคับให้ลงคะแนนตามที่กำหนด

-เป็นการสมยอมลงคะแนน ไม่ใช่การเลือกกันเองโดยเสรี

ขัดต่อ 

-รัฐธรรมนูญ มาตรา 107

-พ.ร.ป. สว. มาตรา 11, 33 และมาตรา 62

-รวมถึง มาตรา 77 (1) ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา

เปิดชื่อโยงว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคดัง

คำวินิจฉัยยังระบุเพิ่มเติมว่า นายสัจจพงษ์ เป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี และปัจจุบันใช้เฟซบุ๊กแสดงตัวเป็น ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต 8 อุดรธานี พรรคการเมืองดังพรรคหนึ่ง

โดยมีภาพร่วมประชุมกับแกนนำพรรค และร่วมประชุมใหญ่วิสามัญพรรคในหลายกิจกรรม กระทั่งถูกเปิดโปงเส้นทางเชื่อมโยงกับขบวนการล็อบบี้เลือก สว. ครั้งนี้