"นฤมล” ปั้นผู้นำการศึกษา ใช้ AI ปรับวิชาประวัติศาสตร์-พลเมือง ให้น่าเรียน

27 พ.ย. 2568 | 11:15 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ย. 2568 | 11:27 น.

“รมว.นฤมล” ถกสร้างพลังผู้นำการศึกษา สร้างกฎการใช้เอไอ พร้อมพัฒนาหลักสูตร “ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง” ให้สนุกและน่าเรียน

KEY

POINTS

  • รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายปรับปรุงการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง โดยเปลี่ยนจากการท่องจำเป็นการเน้นทักษะการวิเคราะห์เพื่อให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
  • เล็งเห็นถึงแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในแวดวงการศึกษาทั่วโลก
  • เตรียมกำหนดนโยบาย สร้างกฎระเบียบ และวางกรอบจริยธรรมสำหรับการนำ AI มาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

 

 

"นฤมล” ปั้นผู้นำการศึกษา ใช้ AI ปรับวิชาประวัติศาสตร์-พลเมือง ให้น่าเรียน

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ร่วมคิด ร่วมทำ รวมพลังผู้นำการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน” กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤตอุทกภัยอย่างรุนแรงในครั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดสงขลา พัทลุง สตูล ยะลา ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส กระบี่ และปัตตานี ต้องชี้แจงว่า ในขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งกระจายกำลังอย่างเร่งด่วนไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย และนอกจากมีทีมเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือ ก็ยังมีบุคลากรและเจ้าที่ที่ได้รับผลกระทบและเป็นผู้ประสบภัยอีกด้วย อาทิ สถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และที่สำคัญที่สุดก็คือ ครอบครัวของทุก ๆ ท่าน

ทั้งนี้ รมว.ศธ. ได้ฝากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน น้อมนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 มาปฏิบัติ โดยให้มีการในการเรียนการสอน ประวัติศาสตร์ไทยและหน้าที่พลเมือง เพื่อพัฒนาความเข้าใจเชิงโครงสร้างของสังคม การเมือง และบทบาทของประชาชน แทนที่จะเน้นเพียงการท่องจำ แต่เป็นการฝึกฝนการวิเคราะห์ การเชื่อมโยงข้อมูล และการตีความสถานการณ์

"นฤมล” ปั้นผู้นำการศึกษา ใช้ AI ปรับวิชาประวัติศาสตร์-พลเมือง ให้น่าเรียน

เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจในระบอบการปกครองของไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของวิชานี้ให้ทัดเทียมกับวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และมีการปรับปรุงรูปแบบการสอนให้เกิดความสนุกและน่าเรียนรู้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านตนก็ได้เดินทางไปประชุมรัฐมนตรีศึกษาในกลุ่มประเทศ สมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development) ซึ่งการประชุมดังกล่าวได้มีการนำเสนอผลวิจัยอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากมากที่สุดคืออุตสาหกรรมการศึกษา โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)มาใช้กับการเรียนการสอน ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการจะต้องกำหนดนโยบาย สร้างกฎระเบียบและจริยธรรมในการใช้เอไอ เพื่อให้ผู้ใช้งานเอไอมีความปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นตนจึงขอฝากคณะกรรมการสถานศึกษาไว้ด้วย