“อนุดิษฐ์” ชี้คดีอายัดทรัพย์ ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งสภา ไม่เลือกปฏิบัติ

15 พ.ย. 2568 | 09:27 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2568 | 09:42 น.

น.อ.อนุดิษฐ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ชี้กรณี ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ถูก ปปง.อายัดทรัพย์ ต้องตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม ไม่ปกป้องใคร นักการเมืองต้องเป็นตัวอย่างที่ดี

KEY

POINTS

  • น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ยืนยันพรรคกล้าธรรมจะไม่แทรกแซงหรือปกป้องกรณี ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ถูก ปปง. อายัดทรัพย์สิน และพร้อมให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
  • ชี้ว่ากรณีดังกล่าวต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับ ส.ส. ทั้งสภา ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ
  • ตั้งคำถามถึงความสองมาตรฐานทางการเมือง โดยยกกรณี ส.ส. จากพรรคอื่นที่ถูกศาลพิพากษาแต่ยังดำรงตำแหน่งได้ กลับเรียกร้องให้ ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ลาออก
  • เรียกร้องให้นักการเมืองใช้บรรทัดฐานเดียวในการตรวจสอบทั้งตนเองและผู้อื่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสภาผู้แทนราษฎร

วันที่ 15 พฤศจิกายน  2568 นาวาอากาศเอก(น.อ.)อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกรณีกระแสสังคม หลังนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์จากข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงคดีพนันออนไลน์ โดยระบุว่า พรรคกล้าธรรมยืนยัน ไม่แทรกแซง ไม่ปกป้อง ไม่ขัดขวาง การตรวจสอบ พร้อมให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าวว่า ช่วง 2–3 วันที่ผ่านมา ตนได้รับคำถามจากสื่อหลายสำนัก ทั้งเรื่องความรับผิดชอบของพรรค และข้อเรียกร้องให้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องลาออกหรือไม่ ขอชี้แจงว่าประเด็นนี้ ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นมาตรฐานเดียวกันของทั้งสภาผู้แทนราษฎร

ทั้งนี้ย้ำว่า ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการยุติธรรม และพรรคจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดก็ต้องรับผิด แต่หากเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการยกเว้นให้ใครทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม น.อ.อนุดิษฐ์ เรียกร้องให้สังคมมองภาพใหญ่ด้วยความเป็นธรรม พร้อมตั้งคำถามถึงความ สองมาตรฐานทางการเมืองโดยชี้ว่า ปัจจุบันมี ส.ส.จากหลายพรรค ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่เคยถูกศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก แต่ยังดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ขณะที่บางคนซึ่งมีคดีติดตัวกลับออกมาเรียกร้องให้ ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ลาออกทันที

“คำถามคือ เรากำลังใช้มาตรฐานเดียวกันจริงหรือไม่? หากผู้แทนที่กำลังต่อสู้คดีของตัวเองยังทำหน้าที่ต่อไปได้ หลักเดียวกันก็ควรใช้กับทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะบางฝ่ายเท่านั้น นี่ไม่ใช่การโจมตีใครเป็นพิเศษ แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นปัญหามาตรฐานร่วมของสภาที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ย้ำหลักการสำคัญ 3 ประการของพรรคกล้าธรรม ได้แก่ 1.ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนต้องถูกตรวจสอบอย่างเท่าเทียม 2.เคารพกระบวนการยุติธรรม คำพิพากษาศาลชั้นต้นหรืออุทธรณ์คือข้อเท็จจริงตามกฎหมาย แม้คดียังไม่ถึงที่สุดก็ไม่ควรทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และ 3,นักการเมืองต้องเป็นตัวอย่างที่ดี หากจะเรียกร้องให้คนอื่นลาออก ก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับตัวเอง

"ประเทศไทยอยู่กับสองมาตรฐานมานาน และการใช้คดีของผู้อื่นสร้างประโยชน์ทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น การยกระดับความเชื่อมั่นของสภาคือสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งต้องเริ่มจากการตรวจสอบตนเองก่อน ก่อนจะกวาดบ้านให้คนอื่น เราต้องกวาดบ้านของตัวเองให้สะอาดก่อนเสมอ สีเขียวก็ไม่เอาสีเทาเช่นกัน"น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย