นโยบายรัฐบาลเขียนชัด ทำประชามติ 'ยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา' แก้ปัญหาชายแดน

25 ก.ย. 2568 | 05:27 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2568 | 05:36 น.

​นโยบายรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล เขียนชัดเจน ชูธงให้ประชาชนตัดสินใจทำประชามติยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา เพื่อทวงคืนอธิปไตยตามแนวชายแดน

KEY

POINTS

  • รัฐบาลบรรจุนโยบายทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างไทย-กัมพูชา
  • นโยบายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายด้านความมั่นคง ที่เตรียมแถลงต่อรัฐสภา
  • มีเป้าหมายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ และรักษาอธิปไตยของชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา เสร็จแล้ว เพื่อเตรียมแถลงในวันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568

โดยความยาวของคำแถลงมีทั้งหมด 48 หน้า โดยหนึ่งในนโยบายประเด็นด้านความมั่นคงที่ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบพบล่าสุด คือการประกาศนโยบายที่จะ "ทำประชามติ" เพื่อให้ประชาชนร่วมตัดสินใจในการ ยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างไทย-กัมพูชา

ในส่วนของนโยบายด้านความมั่นคง หน้า 12 ข้อ 6 รัฐบาลเน้นย้ำถึงการเร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา ระบุว่า 

"เร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อนำความมั่นคงปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนตามบริเวณชายแดนโดยเร็วและรักษาไว้ ซึ่งอธิปไตยและเขตแดนที่เป็นของไทยโดยชอบธรรมตามเส้นเขตแดนที่เป็นสากล รวมถึงดำเนินการยุติความขัดแย้งผ่านกลไกการเจรจาทางการทูตที่เหมาะสมควบคู่กับการป้องกัน
ประเทศที่เข้มแข็ง ตลอดจนทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินใจ ให้ความเห็นต่อการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างไทย-กัมพูชา

นอกจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินนโยบายต่างประเทศในเชิงรุกที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นใจ
และสถานะของไทยในเวทีระหว่างประเทศ 

นอกจากนี้ในนโยบายความมั่นคงยังระบุในข้อ 7 ว่า เร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยรัฐบาลจะเร่งรัด
ปรับแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในด้านการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคู่ขนานไปกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน