KEY
POINTS
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อเวลา 09.25 น. เพื่อเข้ารับฟังคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 เรื่องการบังคับโทษจำคุก หรือที่สื่อมวลชนเรียกว่า "คดีชั้น 14" ซึ่งศาลฎีกากำหนดนัดอ่านคำสั่งในวันนี้ เวลา 10.00 น..
สำหรับบรรยากาศที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งเป็นที่พักของนายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นไปอย่างเงียบสงบ แต่ก็มีสื่อมวลชนจำนวนมากปักหลักติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ด้านหน้าบ้าน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางพลัด ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้มาประจำการเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลความเรียบร้อย
ก่อนการเดินทาง เมื่อเวลา 08.44 น. มีขบวนรถตู้เบนซ์ 4 คัน ขับเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งทราบว่าเป็นรถของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ของนายทักษิณ ที่เดินทางเข้ามาพบบิดาก่อนจะออกไปพร้อมกัน
จากนั้นเวลา 09.09 น. ขบวนรถของนายทักษิณ ชินวัตร ได้เคลื่อนออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า โดยรถคันแรกเป็นรถเมอร์เซเดสเบนซ์ มายบัค สีดำ-เงิน หมายเลขทะเบียน พร 195 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของนายทักษิณ ตามด้วยขบวนรถของบุตรสาวรวมทั้งหมด 5 คัน มุ่งหน้าไปยังศาลฎีกา
เป็นที่จับตาของสื่อมวลชนว่าการที่นายทักษิณเดินทางออกจากบ้านในเวลา 09.09 น. ของวันที่ 9 เดือน 9 นี้
เมื่อเดินทางถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายทักษิณได้เข้าทางประตู 6 ด้านหลังศาลริมคลองหลอด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด. นายทักษิณได้ยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชนและมวลชนคนเสื้อแดงที่มาคอยให้กำลังใจ
ก่อนจะเดินเข้าไปภายในศาลพร้อมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว รวมถึงลูกเขยทั้ง 2 คน โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ออกมารอรับ ทั้งนี้ นายทักษิณไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ แก่สื่อมวลชน
โดยบรรยากาศในเช้าวันนี้ก่อนที่นายทักษิณจะเดินทางมาถึง มีกลุ่มผู้สนับสนุนมวลชนเสื้อแดง ได้เดินทางมาให้กำลังนายทักษิณ โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดระเบียบบริเวณโดยรอบพื้นที่ศาลฎีกา ทางเจ้าหน้าที่ได้วางรั้วแผงเหล็กปิดกั้นสำหรับแนวจอดรถของสื่อมวลชนที่ได้ลงทะเบียนกับศาลบริเวณด้านหลังศาลฎีการิมคลองหลอด พร้อมกับวางแผงเหล็กเป็นจุดสำหรับตั้งกล้องบันทึกภาพและทำข่าวของสื่อมวลชน
สำหรับคดีนี้เป็นการนัดอ่านคำสั่งบังคับโทษคดีถึงที่สุดกับนายทักษิณ โดยศาลฎีกาฯ ได้ทำการไต่สวนพยานมาเป็นเวลา 7 นัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าการบังคับโทษเป็นไปตามผลคำพิพากษาของศาลฎีกาหรือไม่ คาดว่าผลการตัดสินจะทราบไม่เกินเที่ยงวันนี้
บริเวณศาลฎีกาฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากเดินทางมาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทางศาลฎีกาฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้ร่วมกันวางแผนและกำหนดแนวพื้นที่เพื่อรักษาความเรียบร้อย โดยมีการใช้กำลังตำรวจกว่า 100 นาย
ก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาฯ ยังได้ยกคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้ศาลออกข้อกำหนดห้ามนายทักษิณเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจนกว่าจะมีคำสั่งในคดีนี้