ประวัติ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ นายกฯคนที่ 32 ผลโหวตเห็นชอบ 311 คะแนน

05 ก.ย. 2568 | 11:45 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ย. 2568 | 12:14 น.

ประวัติ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ นายกฯคนที่ 32 ผลโหวตเห็นชอบ 311 คะแนน เช็กประวัตินายกฯคนใหม่ของประเทศไทยล่าสุด คลิกอ่านที่นี่

KEY

POINTS

  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย
  • ผลการลงมติจากสภาผู้แทนราษฎรมีคะแนนเห็นชอบ 311 เสียง ต่อ 152 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียง
  • เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหลายตำแหน่ง อาทิ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

วันที่ 5 กันยายน 2568 ในที่สุดผลโหวตลงคะแนนเลือกตั้งนายกฯคนใหม่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร หรือ สส. ได้ลงมติเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 ต่อ 152 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง นั่นหมายความว่า ายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับเลือกเป็นนายกคนใหม่คนที่ 32 ของประเทศไทย

ประวัติ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’  นายกรัฐมนตรีคนใหม่ 

  • เกิดวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2509 ปัจจุบันอายุ 59 ปี 
  •  ชื่อเล่น หนู เป็นคนกรุงเทพ 
  • สื่อมวลชนเรียก "เสี่ยหนู"

ด้านการศึกษา 

ปี 2527 : จบการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ

ปี 2528 : Worcester Academy,Massachusetts U.S.A 

ปี 2532 : B.S.in Industrial Engineering, Hofstra University, New York, U.S.A

 

ประสบการณ์ทำงาน 

ตำแหน่งสำคัญทางการเมือง 

  • หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย 
  • กรกฎาคม 2547 - ตุลาคม 2547 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 
  • ตุลาคม 2547- มีนาคม 2548 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 
  • มี.ค. 2548- ก.ย.2549 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 
  • 10 ก.ค. 2562- 4 ก.ย.2566 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข
  • 5 ก.ย.2566- 19 มิ.ย.2568  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 

 

ประวัติ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’  นายกฯคนที่ 32 ผลโหวตเห็นชอบ 311 คะแนน

แนวคิดทางการเมือง 

  • ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 
  • สนับสนุนแนวคิดนิรโทษกรรมสู่การปกครอง
  • แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยปี 2562 และ ปี 2566 
  • สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยยึดความถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
  • แนวคิดสำคัญ คือ ลดอำนาจรัฐเพื่อปากท้องพี่น้องประชาชน เชื่อมั่นว่า "พลังของทุกวัย คือ หัวใจของการขับเคลื่อนประเทศ" และยึดมั่นการทำงานด้วยแนวทาง "พูดแล้วทำ".

ที่มา: