เอกชน หวัง 'อนุทิน' ดึงเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ รักษาสัตยาบัน

05 ก.ย. 2568 | 11:47 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ย. 2568 | 12:11 น.

'วิเชียร' ปธ.หอการค้ากลุ่มภาคกลางตอนล่าง 1 หนุนนายกฯใหม่ ทำตามคำสัตยาบัน คืนอำนาจให้ประชาชน เลือกตั้งใหม่เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

KEY

POINTS

  • ภาคเอกชนเรียกร้องให้นายกฯ อนุทิน สร้างเสถียรภาพทางการเมืองเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ
  • เน้นย้ำให้ทำตามสัตยาบันที่ให้ไว้ คือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยการจัดการเลือกตั้งใหม่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางการเมือง
  • เชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยหลีกเลี่ยงภาวะทางตันทางการเมือง และเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 เปิดเผยภายหลังสภาผู้แทนราษฎร โหวตเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไทยในปัจจุบัน มีความสำคัญของการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาขีดความสามารถทางเศรษฐกิจในระยะยาว เพื่อรับมือกับความท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่ 

ทั้งนี้การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใสและส่งคืนอำนาจให้ประชาชน โดยการเลือกตั้งใหม่และการปรับโครงสร้างการทำงานของภาครัฐ ถือเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุทางการเมือง

รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งประชาชนและนักลงทุนต่างชาติ การที่ประเทศชาติจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง จำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ 

โดยเน้นย้ำว่าอยากให้ นายกฯ ทำตามสัตยาบันที่ให้ไว้ คือการคืนอำนาจให้ประชาชน เลือกตั้งใหม่ รีเซ็ตใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกผู้บริหาร และไม่ว่าพรรคใดจะได้คะแนนเสียงมากน้อยเพียงใด ก็ควรวัดกันที่เสียงของประชาชน โดยแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้ต่างชาติมีความมั่นเพื่อดึงดูดการลงทุนและการย้ายฐานการลงทุนมายังประเทศไทย 

"หากเกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง หรือสถานการณ์ที่คล้ายกับการรัฐประหาร ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะลดลง และการพัฒนาเศรษฐกิจจะหยุดชะงัก"

ทั้งนี้ รัฐบาลใหม่มีข้อจำกัดในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลทำอะไรไม่ได้มากทำได้แค่เงินกู้ และเงินกู้ผ่านธนาคาร 4 เดือน อาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่สะสมมาหลายปี 

อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญของการศึกษาและการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ SME การศึกษาในระบบปัจจุบันยังไม่ได้มาตรฐาน จึงจำเป็นต้องพึ่งพาการศึกษาตลอดชีวิต หรือ Long Life Learning เพื่อเสริมสร้างทักษะและความรู้ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้เขาสามารถพัฒนาและ แปรรูป ธุรกิจของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีบทบาทสำคัญในการ สรรหาความรู้หรือข้อมูลใหม่ ๆ มาให้ SME เพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจ การพัฒนา SME ต้องก้าวข้ามรูปแบบเดิม ๆ เช่น OTOP ที่จำกัดอยู่แค่เครื่องจับสาน หรือ ผ้าขาวม้าเก่า ๆ SME ควรได้รับการพัฒนาให้สามารถสร้างสรรค์สินค้าได้หลากหลาย การเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงเป็นกลไกหลักในการพัฒนาขีดความสามารถของแรงงานและผู้ประกอบการให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ 

เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น มองว่า นายกไทยจะเป็นใครก็เหมาะสม สิ่งสำคัญคือองค์คาพยพ หรือระบบราชการและคณะรัฐมนตรี รวมถึงพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย มีความสำคัญมากกว่าตัวนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว หาก

"ข้าราชการสามารถขับเคลื่อนนโยบายได้ดี มองว่ามันทรงพลังมากกว่าใครเป็นนายก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในภาครัฐมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการบริหารประเทศ"

สำหรับการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน หากไม่สามารถดำเนินการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ก็เชื่อว่ามันต้องมีทางออกในฝ่ายของการเมือง มันต้องมีทางออกทางใดทางหนึ่ง การเลือกตั้งใหม่ถูกนำเสนอเป็น "หนทางออกที่ดีที่สุด" เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ "เดดล็อก" (deadlock) หรือทางตันทางการเมืองที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น "ปฏิวัติ" หรือ "อุบัติเหตุอะไรขึ้นมา" 

นอกจากนี้หากเกิดสถานการณ์ยืดเยื้อ ต่างชาติจะไม่มั่นใจ และการลงทุนจะลดลง การจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยและดำเนินการตามแนวทางที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการปรับแก้รัฐธรรมนูญบางข้อ จะช่วยให้ประเทศชาติดีขึ้น