‘เพื่อไทย’ ยันส่ง ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ ชิงตำแหน่งนายกฯคนที่ 32

04 ก.ย. 2568 | 03:55 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2568 | 07:26 น.

พรรคเพื่อไทยยืนยันส่งชื่อ ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ ชิงตำแหน่งนายกฯคนที่ 32 ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งพรุ่งนี้

KEY

POINTS

  • พรรคเพื่อไทยยืนยันเสนอชื่อ ศ.พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการโหวตของสภาฯ
  • ชัยเกษมจะไม่สามารถแสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุมสภาฯ ได้ เนื่องจากไม่ได้เป็น ส.ส.
  • ขณะเดียวกัน พรรคประชาชนได้ประกาศสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ โดยมีเงื่อนไขให้ยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 4 เดือน

เพจเฟสบุ๊กพรรเพื่อไทยระบุว่านายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทย ยืนยันจะเสนอชื่อ ศ.พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ สู้ต่อในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 68)

ส่วนจะมีการให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่นั้น วิสุทธิ์ เผยว่า คงไม่มีเพราะ ศ.พิเศษ ชัยเกษม ไม่ได้เป็น ส.ส. จึงไม่สามารถเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้

ขณะที่เมื่อวานนี้ (3 ก.ย. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้แถลงและลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องดำเนินการยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน

‘เพื่อไทย’ ยันส่ง ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ ชิงตำแหน่งนายกฯคนที่ 32

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองอย่างรอบด้าน และพิจารณาแล้วว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ การสนับสนุนนายอนุทินไม่ใช่การไว้วางใจให้บริหารประเทศในระยะยาว แต่เป็นการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่ตามข้อตกลงที่ระบุไว้ใน MOU คือเดินหน้าสู่การยุบสภาและจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยเร็วที่สุด

รายละเอียด MOU และการตีความ

MOU ฉบับนี้มีเงื่อนไข 5 ข้อ ซึ่งครอบคลุมประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการยุบสภา อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ ยอมรับว่าในทางปฏิบัติเงื่อนไขดังกล่าวอาจมีการบิดพลิ้วได้ แต่หากเกิดขึ้นพรรคภูมิใจไทยจะต้องแบกรับ "ต้นทุน" จากการตระบัดสัตย์ต่อประชาชน

นายณัฐพงษ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีอุปสรรค เช่น กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าต้องทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้งตามที่เคยเป็นข่าว พรรคประชาชนอาจต้องพิจารณาขยายกรอบเวลา 4 เดือนออกไปเล็กน้อยเพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ยืนยันว่าการยึดตามข้อตกลงและกรอบเวลา 4 เดือนยังเป็นหลักสำคัญที่สุด

นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ผ่านการไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบคอบ โดยรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของพรรค ทั้งสมาชิก สส. เครือข่าย และพนักงานพรรค ซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกัน