วันนี้ (9 ส.ค. 2568) เวลา 09.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อาทิ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง, ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ เพื่อให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพ และส่งประชาชนผู้หนีภัยกลับภูมิลำเนาในจังหวัดสุรินทร์
การเดินทางกลับเกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ประชุมที่มาเลเซีย และบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน พร้อมสร้างกลไกควบคุมสถานการณ์ป้องกันการปะทะซ้ำ โดยศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) อนุญาตตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2568 ให้ประชาชนในพื้นที่ “เรดโซน” ทยอยกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย
ระยะแรกครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และ บุรีรัมย์ หน่วยงานรัฐทั้งมหาดไทย คมนาคม กลาโหม สาธารณสุข พม. การต่างประเทศ และ อปท. ได้เตรียมระบบขนส่ง เส้นทาง จุดพัก สิ่งอำนวยความสะดวก และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดการเดินทาง
นายภูมิธรรม ย้ำว่า “ทุกข์ของพี่น้องประชาชนคือทุกข์อันดับหนึ่งที่รัฐบาลต้องดูแล” พร้อมระบุว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอาสาสมัคร (อส.) เฝ้าระวังบ้านเรือนระหว่างการอพยพ และเมื่อกลับบ้าน หน่วยงานท้องถิ่นจะสำรวจความเสียหาย หากรุนแรงจะจัดหาที่พักชั่วคราวและซ่อมแซมทันที โดยใช้กำลังทหารช่าง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถาบันอาชีวศึกษา และเครือข่ายอาสาสมัครร่วมดำเนินการ
สำหรับมาตรการเยียวยาที่รัฐบาลอนุมัติ ครอบคลุม 3 ด้านหลัก คือ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดรถโดยสาร และยานพาหนะสนับสนุนการเดินทางกลับ พร้อมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ การประปาส่วนภูมิภาค พิจารณามาตรการลดค่าน้ำ–ค่าไฟ เพื่อลดภาระช่วงฟื้นฟู
นายภูมิธรรม กล่าวปิดท้ายว่า รัฐบาลทุกภาคส่วนจะทำงานเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย มีความพร้อมฟื้นฟูชีวิตและกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด