พระราชทานอภัยโทษผู้ต้องขัง 8 หมื่นราย “บุญทรง–เสี่ยเปี๋ยง”ลดโทษ

30 ก.ค. 2568 | 09:16 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2568 | 09:28 น.

โปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษ ผู้ต้องขังทั่วประเทศกว่า 8 หมื่นราย ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 “บุญทรง–เสี่ยเปี๋ยง” เข้าเกณฑ์ลดโทษ

KEY

POINTS

  • มีการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขังทั่วประเทศเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 โดยมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 80,000 ราย
  • ผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษ แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับการปล่อยตัวทันทีและลดโทษแล้วปล่อยตัวรวมกว่า 25,000 ราย และกลุ่มที่ได้รับการลดโทษ แต่ยังต้องรับโทษจำคุกต่ออีกกว่า 55,000 ราย
  • นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ผู้ต้องโทษในคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี เข้าเกณฑ์ได้รับการลดโทษตามระเบียบ

วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 ว่า ผู้ต้องขังทั่วประเทศที่เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ เบื้องต้นมีประมาณกว่า 10,000 ราย แต่เมื่อตรวจสอบโดยละเอียด คาดว่าจำนวนผู้ได้รับประโยชน์จะสูงถึงกว่า 80,000 ราย โดยกรมราชทัณฑ์จะจัดทำสถิติอย่างเป็นทางการต่อไป

2 อดีตนักโทษคดีจีทูจีข้าวเข้าเกณฑ์

เมื่อถูกถามถึงกรณีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” อดีตนักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ ผู้ต้องโทษจากคดีทุจริตระบายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่าจะได้รับประโยชน์จากพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้หรือไม่

พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ หากเป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการพักการลงโทษ ก็มีสิทธิได้รับการลดโทษ โดยนายบุญทรง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างคุมประพฤติ และเหลือโทษพักการลงโทษอีก 3 ปี 5 เดือน จะได้รับการลดโทษลงหนึ่งในสามตามระเบียบ แต่ยังไม่ถือว่าพ้นโทษทันที ส่วนกรณีของ “เสี่ยเปี๋ยง” ก็เข้าเกณฑ์ได้รับประโยชน์เช่นกัน

รมว.ยุติธรรมย้ำว่า กระบวนการพระราชทานอภัยโทษเป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมายราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสผู้ต้องขังกลับตัวเป็นพลเมืองดี โดยยังคงคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม
 

สถิติผู้ได้รับอภัยโทษ

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันมีนักโทษเด็ดขาดทั่วประเทศ 216,522 ราย ในจำนวนนี้ได้รับอภัยโทษ 81,333 ราย และไม่ได้รับ 135,189 ราย โดยผู้ที่ได้รับการอภัยโทษ แบ่งเป็น

อภัยโทษปล่อยตัวทันที 12,739 ราย

ลดโทษแล้วปล่อยตัว 7,599 ราย

กักขังแทนค่าปรับ 4,996 ราย

รวมแล้วมีผู้ได้รับการปล่อยตัว 25,334 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับการลดโทษแต่ยังต้องจำคุกต่อ มีจำนวน 55,999 ราย