กต.เร่งเครื่องรับมือวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยคนไทยกลับประเทศ

ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้เดินหน้าเร่งมาตรการเพื่อเตรียมพร้อมดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่พำนักหรือทำงานอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งอาจได้รับผลกระทบ และมีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด โดยเมื่อเย็นวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 มาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมผ่านระบบทางไกล แม้ขณะนั้นจะอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมที่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สะท้อนถึงความสำคัญและเร่งด่วนของประเด็นนี้ที่รัฐบาลไม่สามารถปล่อยให้รอได้แม้แต่นาทีเดียว

ในการประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจากหลายหน่วยงานหลัก ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ รัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม และ พล.อ.อ. มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสถาบันการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย รวมถึงตัวแทนจากสายการบินพาณิชย์สัญชาติไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่ การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยเวียตเจ็ท นกแอร์ และไทยไลอ้อนแอร์ ซึ่งทั้งหมดแสดงความพร้อมอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนปฏิบัติการช่วยเหลือในครั้งนี้ โดยเฉพาะหากจำเป็นต้องมีการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับคนไทยกลับประเทศโดยเร็ว

ที่ประชุมได้หารือเชิงลึกในหลากหลายประเด็น ตั้งแต่มาตรการด้านความปลอดภัย แผนฉุกเฉิน กำลังคน ช่องทางการสื่อสาร การประสานงานข้ามประเทศ ตลอดจนความร่วมมือกับสายการบิน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้การอพยพคนไทยเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด รัฐมนตรีมาริษเน้นย้ำอย่างชัดเจนว่า "ภารกิจในการดูแลคนไทยในกัมพูชา ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนและมีความสำคัญสูงสุดของรัฐบาล" พร้อมขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังออกแถลงการณ์ขอให้คนไทยในกัมพูชาติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และหากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้ที่หมายเลข +85577 888 114 หรือสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ที่หมายเลข +85586 608 999 รวมถึง Call Center กรมการกงสุล หมายเลข +6625 728 442 ซึ่งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการประสานงานและให้คำแนะนำในทุกสถานการณ์