รังสิมันต์ ซัดกัมพูชากร้าว ไทยต้องรักษาศักดิ์ศรี ปกป้องประชาชน

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาที่ลุกลามถึงขั้นใช้อาวุธหนัก โดยประณามพฤติกรรมของรัฐบาลกัมพูชาอย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเดินหน้าแสดงจุดยืนต่อเวทีนานาชาติ

นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า พฤติกรรมของกัมพูชา ทั้งการยั่วยุ การใช้ความรุนแรง และการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ด้วยการวางกับดักระเบิด เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อกัมพูชาเอง คือ หนึ่งในประเทศที่เคยเผชิญความสูญเสียจากระเบิดเหล่านี้อย่างหนักในอดีต แต่กลับนำมาใช้กับไทยในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าไร้ความรับผิดชอบและขัดหลักมนุษยธรรม

“รัฐบาลไทยต้องประณามอย่างเป็นทางการ และแจ้งให้ประชาคมโลกรับรู้ความจริง เชิญตัวแทนทางการทูตจากประเทศต่างๆ เข้าสังเกตการณ์พื้นที่ เพื่อยืนยันว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มใช้ความรุนแรงอย่างชัดเจน” นายรังสิมันต์ กล่าว

พร้อมเสนอให้ไทยเร่งดำเนินการเชิงรุก นำประเด็นนี้เข้าสู่ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) โดยไม่ควรรอถึงการประชุมอนุสัญญาออตตาวาในเดือนธันวาคม พร้อมทั้งระบุว่า การสื่อสารกับนานาชาติคือกลไกสำคัญ เมื่อไม่สามารถเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาได้โดยตรง

ในประเด็นภายในประเทศ นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการฯ มีหนังสือเรียก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีผู้เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจง แต่บางรายติดภารกิจ โดยเฉพาะกรณีนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยตรง ควรแสดงความชัดเจนต่อสาธารณะ

“คลิปเสียงที่หลุดออกมา สะท้อนความขัดแย้งส่วนตัวของผู้นำระดับสูงระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน ต้องหยุดความขัดแย้งส่วนตัว และแสดงความเป็นผู้นำที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ” 

ในส่วนของประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง เด็ก และผู้สูงอายุ นายรังสิมันต์ เน้นย้ำว่า รัฐบาลต้องมีมาตรการรองรับอย่างชัดเจน ไม่ปล่อยให้ตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้ง และเร่งดำเนินการป้องกันล่วงหน้า

“กัมพูชามีเจตนายั่วยุเพื่อหวังผลทางการเมือง และภาพลักษณ์ในประเทศ หวังสร้างภาพว่าชนะไทย โดยไม่สนใจความสูญเสียที่เกิดขึ้น รัฐบาลไทยจึงต้องตอบโต้ตามความจำเป็น และยืนยันต่อโลกว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน แต่ปกป้องอธิปไตยและประชาชน” นายรังสิมันต์กล่าว พร้อมเตือนว่า หากปล่อยให้สถานการณ์ลุกลามโดยไม่ตอบสนอง จะเป็นการเปิดทางให้กัมพูชาใช้โอกาสนี้ฟ้องไทยต่อศาลโลก

นายรังสิมันต์ โรม ยังเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ใช้ “ทุกกลไกที่มีอยู่” อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายกลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างรัฐโดยสมบูรณ์ 

“ฮุนเซนเขาอายุเยอะแล้ว เขาคิดว่านี่คือโอกาสสุดท้ายในการสร้างภาพชัยชนะเหนือไทย รัฐบาลไทยต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือ ต้องเดินเกมให้ทัน เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของประเทศและประชาชน” รังสิมันต์ ระบุ