“ภูมิธรรม”เล็งฟันอธิบดีกรมที่ดิน หากแจงปมเขากระโดงไม่เคลียร์

21 ก.ค. 2568 | 06:26 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2568 | 06:32 น.

ครบกำหนด 7 วัน หลัง “ภูมิธรรม” ให้อธิบดีกรมที่ดินชี้แจง ปมไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์เขากระโดง หากยังไม่ชัดเจนพร้อมตั้งกรรมการสอบ-สั่งย้าย “คนรถไฟ”จี้รัฐทำตามคำพิพากษา

วันที่ 21 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบปัญหาที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งครบกำหนด 7 วัน ในวันนี้ ที่ให้อธิบดีกรมที่ดินทำรายงานชี้แจง ว่า หากในวันนี้ยังไม่มีความชัดเจน และยังไม่สามารถเคลียร์พื้นที่ตามคำพิพากษาของศาลได้ ตนเตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที และหากพบว่า อธิบดีกรมที่ดินเพิกเฉยต่อหน้าที่ อาจจำเป็นต้องมีคำสั่งโยกย้าย

นายภูมิธรรม ระบุว่า ต้องพิจารณารายละเอียดจากรายงานก่อน แต่หากความล่าช้าไม่มีเหตุผลชอบธรรม ย่อมสะท้อนถึงการไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของศาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้


วันเดียวกันนี้ นายสุวิช ศุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟแห่งประเทศไทย (สพ.รฟ.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายภูมิธรรม เรียกร้องให้เร่งดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินเขากระโดง เนื้อที่รวมกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งศาลฎีกา ป.ป.ช. และคณะกรรมการกฤษฎีกาต่างมีคำวินิจฉัยตรงกันว่า เป็นที่ราชพัสดุที่รัชกาลที่ 5 พระราชทานให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อใช้ในกิจการขนส่งระบบราง

นายสุวิช ระบุว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว แม้ศาลจะชี้ขาดแล้ว ขณะที่กรมที่ดินยังมีท่าทีโต้แย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ ทั้งที่ข้อกฎหมายและคำพิพากษาชัดเจนว่า เป็นของรัฐ หากไม่มีการดำเนินการ อาจเปิดช่องให้เอกชนเข้าครอบครอง ซึ่งจะทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์มหาศาล

"สิ่งที่สมาพันธ์เรียกร้อง คือ การทำให้คำพิพากษาเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเพียงเอกสารบนกระดาษ เพราะท้ายที่สุด ที่ดินที่ควรเป็นสมบัติของรัฐอาจถูกโอนให้เอกชนโดยผิดกฎหมาย" นายสุวิชกล่าว พร้อมย้ำว่า หากประชาชนบางส่วนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ต้องการใช้ประโยชน์ การรถไฟก็พร้อมเปิดให้เช่าตามขั้นตอนและระเบียบของรัฐ

ทั้งนี้ นายสุวิช ยังยอมรับว่า ประเด็นที่ดินเขากระโดงอาจถูกมองว่าเป็น “นิติสงคราม” ระหว่างกลุ่มการเมือง แต่ยืนยันว่า สิ่งที่สมาพันธ์เรียกร้อง คือความเป็นธรรม และการคุ้มครองทรัพย์สินของชาติให้เป็นไปตามครรลองกฎหมายและคำพิพากษาศาลฎีกาเท่านั้น