ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องคดีคลิปสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กับสมเด็จฮุนเซน ของกัมพูชา โดยศาลได้มีคำสั่งให้น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล โดยเฉพาะการรักษาการในตำแหน่งนายกฯ ชั่วคราว ต้องรับผิดชอบโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ล่าสุดในวันนี้ (2 กรกฎาคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ช่วงเช้า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะนำรัฐมนตรีที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ก่อนปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
จากนั้นในช่วงเวลา ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ
เบื้องต้นในการประชุม ครม. นัดพิเศษรอบนี้ โฆษกรัฐบาล ระบุว่า จะมีการหารือเพื่อแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีด้วย
ขณะที่ นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ในช่วงเช้าวันนี้ว่า ภายหลังการถวายสัตย์เสร็จสิ้น นายภูมิธรรมจะกลับมารับหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีแทนตนอีกครั้ง โดยจะลงนามในเอกสารแต่งตั้งนายภูมิธรรมให้กลับมารักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังการถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จสิ้น
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในการประชุมครม. นัดพิเศษ วันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 41 ที่บัญญัติว่า "ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคน ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน"
โดยที่ประชุมครม. นัดพิเศษ จะพิจารณาเห็นชอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เบอร์หนึ่ง แทนนายสุริยะ และขั้นตอนต่อไปนายภูมิธรรมจะใช้อำนาจตาม มาตรา 11(2) ของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 "มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการของกระทรวง หรือทบวงหนึ่งหรือหลายกระทรวงหรือทบวง" ต่อไป
แหล่งข่าว ยังระบุกับฐานเศรษฐกิจด้วยว่า ในการประชุมครม. นัดพิเศษวันพรุ่งนี้ ยังมีวาระอื่น ๆ ที่คาดว่าจะเสนอเข้ามาในที่ประชุมพิจารณาด้วย ตัวอย่างเช่น การอัพเดทสถานะต่าง ๆ ของประเทศล่าสุดที่รองนายกฯ ต้องรับทราบ รวมทั้งมีการขอยกเว้นตามมติครม.เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนสำหรับการก่อสร้างทางหลวง ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งคาดว่าจะเสนอเข้ามาเป็นวาระเพื่อพิจารณาด้วย
อย่างไรก็ตามคาดว่าในการประชุมครม. นัดพิเศษครั้งนี้ จะใช้เวลาในการหารือไม่นานนัก และอาจมีการแถลงข่าวภายหลังการประชุมต่อไป