สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า วันอังคารที่ 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญของประเทศไทยมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จากหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างรอการพิจารณาคำร้องที่ต้องการให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลที่กำลังเผชิญกับภาวะดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และถูกโจมตีจากหลายด้าน
รายงานระบุว่า ศาลรับคำร้องจากสมาชิกวุฒิสภา 36 คนที่กล่าวหานางสาวแพทองธารว่าขาดความสุจริต และละเมิดจริยธรรมร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่มีการรั่วไหลของบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่มีเนื้อหาละเอียดอ่อนทางการเมืองกับสมเด็จฮุนเซน อดีตผู้นำที่ทรงอิทธิพลของกัมพูชา
รายงานระบุว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้ารับหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีในระหว่างที่ศาลพิจารณาคดีของนางสาวแพทองธาร โดยมีเวลา 15 วันในการยื่นคำชี้แจง และจะยังคงอยู่ในคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมคนใหม่ หลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรี
รอยเตอร์รายงานอีกว่า การโทรศัพท์ที่รั่วไหลกับอดีตผู้นำกัมพูชาก่อให้เกิดความไม่พอใจภายในประเทศ และทำให้รัฐบาลผสมของนางสาวแพทองธารมีเสียงข้างมากในสภาเพียงเล็กน้อย หลังจากพรรคร่วมหลักพรรคหนึ่งถอนตัวจากพันธมิตร และคาดว่าจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงก็กำลังกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออก
ในการโทรศัพท์เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่มีจุดประสงค์เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดบริเวณชายแดนกับกัมพูชา แพทองธาร วัย 38 ปี ได้ก้มศีรษะแสดงความเคารพต่อสมเด็จฮุนเซน และวิจารณ์ผู้บัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ถือว่าล้ำเส้นในประเทศที่กองทัพมีอิทธิพลสูง เธอได้ขอโทษและชี้แจงว่า คำพูดดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ในการเจรจา
รอยเตอร์ รายงานต่อว่า การต่อสู้ของนางสาวแพทองธารภายในเวลาเพียง 10 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง สะท้อนถึงพลังที่ถดถอยของพรรคเพื่อไทย กลุ่มการเมืองแนวประชานิยมของตระกูลชินวัตร มหาเศรษฐีที่ครองชัยชนะในการเลือกตั้งของไทยมาตั้งแต่ปี 2544 แม้จะเผชิญกับการรัฐประหารและคำตัดสินของศาลที่โค่นล้มรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีหลายคน
สำหรับนางสาวแพทองธาร นักการเมืองหน้าใหม่ ถือเป็นการลุยสนามการเมืองครั้งแรกแบบเต็มตัว โดยได้รับการผลักดันให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของไทย และเข้ามาแทนนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนจากตำแหน่งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทั้งที่พิชิตเคยต้องคำพิพากษาจำคุก
นอกจากนี้รัฐบาลของนางสาวแพทองธารยังคงประสบปัญหาในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซา และคะแนนนิยมลดลงอย่างรวดเร็ว โดยผลสำรวจความคิดเห็นระหว่างวันที่ 19–25 มิถุนายนที่เผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า คะแนนนิยมของเธอลดลงจาก 30.9% ในเดือนมีนาคม เหลือเพียง 9.2%
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุอีกว่า แพทองธารไม่ได้เผชิญปัญหาเพียงลำพัง เพราะนายทักษิณ ชินวัตร บิดา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนรัฐบาลชุดนี้ ก็กำลังเผชิญกับกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน