วันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพื่อคัดค้านการแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบรมว.พลังงาน โดยให้เหตุผลว่า นายพีระพันธุ์ มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติและจริยธรรมทางการเมือง อยู่ในชั้นพิจารณาขององค์กรอิสระมากกว่า 15 เรื่อง และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
นายสนธิญา ระบุว่า การคัดค้านครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการร้องเรียนผู้ที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นในบริษัทเอกชนของนายพีระพันธุ์ ซึ่งได้มีการยื่นข้อมูลไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการบริหารจัดการของฝ่ายการเมืองเกี่ยวกับบุคคลในทำเนียบรัฐบาล ที่มีข่าวว่าถูกให้ออกจากตำแหน่ง แต่กลับปรากฏตัวในที่ประชุมก่อนจะถูกจับกุม
นอกจากนี้ นายสนธิญา ยังประกาศว่า ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ตนจะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นคำร้องขอให้มีการยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยอ้างอิงมาตรา 20, 21, 25, 54, 56 และ 92(3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งระบุถึงการกระทำของพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้เกิดความแตกแยกในสังคม และเข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ของกฎหมาย
นายสนธิญา กล่าวว่า คำร้องที่จะยื่นไปยัง กกต. ยังรวมถึงข้อเรียกร้องให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา หรือ พรรคกล้าธรรม โดยระบุว่า การที่พรรคเหล่านี้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังเกิดกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมือง และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ในส่วนของคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ ซึ่งมีเนื้อหาสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ สมเด็จฮุน เซน นายสนธิญากล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่า เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทางการทูต เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ที่มีสายตรงระหว่างผู้นำ แต่กลับมีการนำบทสนทนาส่วนตัวออกมาเผยแพร่ พร้อมระบุว่า "เป็นมารยาททรามของผู้นำประเทศนั้น ๆ" และอาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่ทำให้ผู้นำโลกไม่กล้าพูดคุยกัน
อย่างไรก็ตาม นายสนธิญา ยังย้ำว่า หากมีการแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ตนจะยื่นเรื่องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบร่วม ในฐานะผู้แต่งตั้งบุคคลที่อาจมีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับกรณีที่เคยยื่นตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ นายสนธิญา ตั้งคำถามต่อกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ กรณีออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก มิเช่นนั้นจะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเห็นว่าเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมกับบทบาทของพรรคการเมืองที่อ้างว่าเป็น "ดีเอ็นเอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" และยังขัดต่อความคาดหวังของประชาชนที่เคยมองว่าพรรคดังกล่าวเป็นความหวังทางการเมือง
ในตอนท้าย นายสนธิญายังเรียกร้องให้ ป.ป.ช. เร่งรัดการออกหมายเรียกในกรณีการแจกถุงยังชีพ และตรวจสอบพฤติกรรมของนักการเมือง ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะกรณีที่กล่าวหาว่า หมายเรียกจาก ป.ป.ช. ถูกนำไปฝากไว้กับวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง นายสนธิญา มองว่า เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ