ยังคงมีหลายประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อเนื่อง หลังจากที่คณะกรรมการแพทยสภา มีมติยืนยันลงโทษแพทย์ 3 รายที่เกี่ยวข้องกับการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจโดยยืนยันมติเดิมด้วยจำนวน 2 ใน 3 หรือ มากกว่า 60 เสียงจากจำนวนเสียงทั้งหมด 70 เสียง
ประเด็นที่น่าสนใจหลังจากนี้ คือ การดำเนินกระบวนการตามขั้นตอนต่าง ๆ โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ได้ตอบข้อซักถามช่วงหนึ่งหลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับขั้นตอนหลังจากนี้ว่า
ทางแพทยสภาจะได้ออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ซึ่งคาดว่าเอกสารจะถึงผู้ที่ถูกสั่งลงโทษในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ โดยในการประชุมวันนี้(12 มิถุนายน 2568) ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทำการรับรองมติแล้ว
อย่างไรก็ดี กรณีการยับยั้งใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะต้องใช้ระยะเวลาตามที่นายกแพทยสภาเป็นผู้กำหนดเพื่อให้ผู้ที่ถูกลงโทษได้จัดการงานที่คั่งค้างหรือมีนัดหมายล่วงหน้า ในส่วนของแพทย์ที่ถูกลงโทษพักใช้ใบอนุญาต 2 คนนั้นระยะเวลาในการพักใช้นั้นไม่เท่ากัน เพราะฐานความผิดแตกต่างกัน
สำหรับแพทย์ทั้ง 3 รายที่กรรมการแพทยสภามีมติลงโทษในครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ ถูกกล่าวหาว่า ออกใบส่งตัวผู้ต้องขังแรกรับไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังถูกส่งไปรักษานอกเรือนจำ และถูกตีความว่า เป็นการไม่รักษามาตรฐานวิชาชีพเวชกรรม
มติแพทยสภา : สั่งลงโทษว่ากล่าว ตักเตือน
2. พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ถูกกล่าวหาว่า ให้ข้อมูลทางการแพทย์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง จากการให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังใน โรงพยาบาลตําารวจ ซึ่งถูกตีความว่า เป็นการสร้างความเข้าใจผิดว่า ผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤติ
มติแพทยสภา : สั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นเวลา 3 เดือน
3. พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ ถูกกล่าวหาว่า เขียนใบแสดงความเห็นแพทย์ไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังได้รับอนุญาตให้นอนพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลซึ่งถูกตีความว่าให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง
มติแพทยสภา : สั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เป็นเวลา 6 เดือน
ทั้งนี้ ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยวิธีพิจารณาจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2563 ระบุไว้ว่า โทษทางจริยธรรมมี 4 ระดับ คือ
1. ว่ากล่าวตักเตือน
2. ภาคทัณฑ์
3. พักใช้ใบอนุญาต ตามเวลาที่เห็นสมควรแต่ไม่เกิน 2 ปี
4. เพิกถอนใบอนุญาต