วันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน มีการไต่สวนข้อเท็จจริงในกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้จะถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกในหลายคดี แต่กลับถูกส่งตัวไปรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ ภายหลังการถูกควบคุมตัว
การไต่สวนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ขอให้มีการไต่สวนว่า การควบคุมตัว นายทักษิณ เป็นไปตามหมายจำคุกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องเนื่องจากผู้ร้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี
อย่างไรก็ดี ศาลฎีกาเห็นว่า อาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบังคับโทษที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนหลังคดีถึงที่สุด จึงมีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตัว นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นจำเลยในคดีหมายเลขแดง อม.4/2551, อม.10/2552 และ อม.5/2551
รวมถึงส่งสำเนาคำร้องไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง
ในการไต่สวนเบื้องต้น ศาลได้เรียก นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาให้การในฐานะพยานปากแรก และต่อมาได้มีคำสั่งให้ออกหมายเรียกพยานเพิ่มเติมอีกจำนวน 20 ปาก
ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาลของโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เวรควบคุมดูแลช่วงเวลา 16.30 น. – 08.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้บัญชาการเรือนจำ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
ทั้งนี้ ศาลได้นัดไต่สวนพยานในวันที่ 4, 8 และ 15 กรกฎาคม 2568 เริ่มเวลา 09.00 น. ณ ศาลฎีกา