จับตาวันนี้ (7มิ.ย.68) เวลา 16.30 น. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยพ.อ.หญิง ผศ. ดร. พญ. ดังใจ สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก จะมีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงถึงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ(กต.)
โดยการแถลงข่าวดังกล่าวจะมีการถ่ายทอดสดทางช่องทางสื่อสารของกระทรวงการต่างประเทศและช่องทางของกรมประชาสัมพันธ์ประกอบด้วย
การแถลงข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวจากสื่อกัมพูชาอย่างน้อย 2 แห่ง รายงานข่าวสถานการณ์ไทยกับกัมพูชา ดังนี้
ขแมร์ไทมส์ (Khmer Times) สื่อท้องถิ่นกัมพูชารายงานว่า นายชุม เซือนรี โฆษกกระทรวงต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา แถลงปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อการกล่าวหาว่ากองกำลังทหารกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย ซึ่งเป็นท่าทีตอบโต้หลังจากที่มีกลุ่ม เครือข่ายนิสิตและประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (NPRST) ซึ่งเป็นผู้ประท้วงชาวไทยมาชุมนุมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ปกป้องอธิปไตยไทยที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายชุมชี้แจงว่าเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลาราว 05.30 น. เมื่อทหารไทยได้เปิดฉากยิงใส่ที่มั่นของกองทัพกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต อำเภอจอมขสัน จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับมานานว่าเป็นจุดประจำการของทหารกัมพูชา และเป็นที่น่าเศร้าที่การปะทะกันครั้งนี้ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตหนึ่งนาย
“เหตุการณ์นี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชาฝ่าฝืนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ทั้งสองรัฐบาลลงนามร่วมกันเมื่อเดือนมิถุนายนพ.ศ. 2543 (ปี 2000) ซึ่งมุ่งรักษาสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดนร่วมกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีข้อพิพาท” โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชากล่าว
โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชายืนยันอีกว่า กัมพูชาให้ความเคารพต่ออธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอดและย้ำถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา นอกจากนี้กัมพูชายังคงยึดมั่นในแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีและด้วยหลักกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป
ด้านนายฮุน สะเริน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตทุกคนปลอดภัยและยังคงปฏิบัติงานตามปกติหลังมีการชุมนุมหน้าสถานทูตอย่างสงบ โดยสถานทูตกัมพูชายังคงเปิดทำการและให้บริการตามปกติแก่ทั้งพลเมืองกัมพูชาและชาวต่างชาติ
ผู้ประท้วงยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 11.15 น. ในวันเดียวกันขณะที่ตำรวจไทยได้จัดกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างครอบคลุมเพื่อให้แน่ใจว่าสถานทูตและเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
ด้าน สำนักข่าวกัมพูชา The Cambodia Morning Post รายงานว่า ทางไทยกำลังจะปิดด่าน หลังจากที่สถานกงสุลใหญ่กัมพูชาประจำจังหวัดสระแก้ว ได้รับหนังสือแจ้งเมื่อเช้าวันที่ 7 มิถุนายน 2568 รับข้อมูลจากกองทหารไทยที่ประจำการอยู่บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว แจ้งมาว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ด่านพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทยได้ถูกปิดเป็นการชั่วคราว (ฝ่ายเดียว) เพื่อรอการเจรจาเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านพรมแดนทางบก ระหว่างไทยและกัมพูชา หลังจากที่กัมพูชาปฏิเสธที่จะเจรจาใน 4 ประเด็น คือ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย และช่องบก
โปรดทราบว่าจุดตรวจและเส้นทางข้ามพรมแดนในจังหวัดต่าง ๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะปิดให้บริการเช่นกัน สถานกงสุลใหญ่ (กัมพูชา) จะรายงานให้ทราบต่อไปเมื่อได้รับข้อมูลที่ชัดเจน แจ้งชาวกัมพูชาที่มีแผนเดินทางเข้า-ออกไทย