นายกฯยันยึดสันติแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ปัดยกดินแดนให้ใคร

04 มิ.ย. 2568 | 06:50 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2568 | 08:13 น.

นายกฯ ย้ำไทยยึดสันติวิธีแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเหตุปะทะที่ด่านช่องบก ชี้สัมพันธ์กับครอบครัว “ฮุน เซน” เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ไม่มีใครยอม “ยกบ้านให้เพื่อน”

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะเหตุการณ์ปะทะบริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความมั่นคง และยึดหลักสันติวิธีเป็นลำดับแรก พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนและสื่อมวลชนให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ หยุดเผยแพร่ข้อมูลเท็จ หรือ เฟคนิวส์ ที่อาจบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

“ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” นายกรัฐมนตรีกล่าว โดยเน้นว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านความมั่นคง อุปกรณ์ และกำลังพล หากสถานการณ์จำเป็นต้องตอบโต้ แต่ย้ำว่าทางเลือกแรกยังคงเป็นสันติวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียทั้งชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และ พลเอกฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า เป็นความสัมพันธ์ระดับผู้นำที่ดี แต่ยืนยันชัดว่า “ไม่มีใครยกบ้านให้เพื่อน” และมิตรภาพดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อการปกป้องอธิปไตยของไทย

“เพื่อนก็คือเพื่อน แต่ถ้าเพื่อนทะเลาะกัน จะให้บ้านเราคงไม่มีใครยอมแน่นอน” นายกรัฐมนตรีตอบโต้สื่ออย่างมีอารมณ์ พร้อมย้อนถามนักข่าวหญิงว่า “เป็นไรเปล่าคะ ทำไมวันนี้ดุจัง” เมื่อถูกจี้ถามถึงท่าทีที่สังคมกังขา

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในวันนี้ (4 มิ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่การหารือในกรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ระหว่างไทย-กัมพูชา มีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 14 มิถุนายนนี้ โดยจะมีการพูดคุยอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนกระแสข้อเสนอจากนักวิชาการที่เรียกร้องให้ไทยใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุก อาทิ การปิดด่านชั่วคราวนั้น นายกรัฐมนตรีเผยว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง แต่ยึดหลักความสงบสุขเป็นหลัก ไม่ต้องการสร้างความตึงเครียดเกินความจำเป็น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีที่อาจไม่สอดคล้องกันระหว่างไทยกับกัมพูชา นายกรัฐมนตรี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาในทางการทูต ซึ่งไทยยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี แม้จะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไว้ทุกด้านก็ตาม

“ถ้าเขารุนแรง แล้วเรารุนแรงกลับ สันติวิธีจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมคุย พร้อมถอย เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญลุกลาม แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เตรียมพร้อมอะไรเลย” น.ส.แพทองธาร กล่าวย้ำ 

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้สังคมไทยเลิกแบ่งฝ่าย ว่าใครหนุน หรือค้านรัฐบาล เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การเมืองภายใน แต่เป็นเรื่องของ “คนไทยทั้งชาติ” ที่ต้องร่วมมือกันเพื่อรักษาแผ่นดิน