มท.1 สั่งด่วนผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง

04 มิ.ย. 2568 | 01:30 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2568 | 01:33 น.

รมว.มหาดไทย สั่งด่วนผู้ว่าราชการจังหวัด ชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมกำลังหนุนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ทหาร เตรียมลงพื้นที่อุบลราชธานี

วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ความตรึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากเหตุปะทะของเจ้าหน้าที่ทหารของทั้ง 2 ประเทศเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ที่ผ่านมาว่า

ขณะนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้มีข้อสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีที่ตั้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมทรัพยากรและกำลังเจ้าหน้าที่สำหรับการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหารอย่างเต็มกำลัง ในกรณีความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น

สำหรับการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เป็นภารกิจของกระทรวงมหาดไทยในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความพร้อมหลังแนวรบ สนับสนุน อำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติของฝ่ายทหาร การระงับและบรรเทาภัยเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่ซึ่งมีความไม่สงบ หรือเมื่อมีสถานการณ์สู้รบ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้เน้นย้ำกับทุกส่วนงานในทุกระดับของกระทรวงมหาดไทย ให้ใช้กลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหารอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหาร ที่ขณะนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ซึ่งมีความขัดแย้งอย่างเข้มแข็ง ล่าสุดในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่มีการปะทะของกำลังทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประชุมร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสำหรับการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังเพิ่มเติมแล้ว 

"ในสถานการณ์ปกติกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยภายใน แต่ในภาวะไม่ปกติก็มีบทบาทหน้าที่เป็นกำลังหนุนเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ส่วนหน้า นายอนุทิน ได้เน้นย้ำกับผู้บริหารกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดว่าเวลานี้กลไกของมหาดไทยทุกระดับต้องให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหารอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน" น.ส.ไตรศุลี กล่าว  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้ ภายหลังกลับจากการร่วมประชุมระดับโลกว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน พร้อมผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยจะเดินทางไปตรวจราชการ จ.อุบลราชธานี ซึ่งจะมีการประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีที่ตั้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อติดตามประเด็นด้านความมั่นคง การดูแลความปลอดภัยประชาชน 

รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน และจะเป็นโอกาสในการติดตามสถานการณ์ในภาพรวมและให้การสนับสนุนในประเด็นที่ผู้บริหารในพื้นที่ร้องเพื่อไปสู่การช่วยเหลือ ดูแลประชาชนต่อไปด้วย