วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 มีรายงานข่าวจากพรรคประชาชน ระบุว่า เกิดแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค หลังจาก นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส. เขต 6 ชลบุรี ได้ยื่นหนังสือขอยุติบทบาททางการเมืองกับพรรคประชาชน พร้อมขอไม่เข้าร่วมกิจกรรมหรือการประชุมใด ๆ ของพรรคอีกต่อไป
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจาก นางสาวกฤษฎิ์ มีปัญหาทัศนคติไม่ลงรอยกับผู้บริหารพรรค และ ส.ส.ร่วมสังกัด โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าตัวยื่นขอหารือประเด็นสำคัญในที่ประชุมสภาฯ ซึ่งพรรคเห็นว่าไม่เหมาะสม และเชิญเข้าพูดคุยในลักษณะ "เข้าห้องเย็น" ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจอย่างมาก
นอกจากนี้ ในช่วงการเลือกตั้งเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อ.ศรีราชา ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบ พรรคได้ขอให้ สส.ลงพื้นที่รณรงค์ช่วยผู้สมัครของพรรค แต่เจ้าตัวปฏิเสธเข้าร่วมด้วยเหตุขัดแย้งกับทีมงานในจังหวัด ทำให้แกนนำพรรคต้องประสานให้ สส.โทรศัพท์เคลียร์ใจกัน ทว่าไม่เป็นผล
ล่าสุด มีรายงานว่า นางสาวกฤษฎิ์ ได้ตอบรับการเข้าร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งอยู่ในฟากฝั่งรัฐบาลแล้ว โดยให้ตัวแทนเจรจากับพรรคกล้าธรรมโดยตรง แม้ว่าพรรคประชาชนจะขอร้องให้งดการเปิดตัว จนกว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะสิ้นสุดลงก็ตาม
ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทย และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีรัฐมนตรีช่วยรายหนึ่งดูแลพื้นที่ชลบุรี ก็ได้ส่งตัวแทนเข้าเจรจาดึงตัว นางสาวกฤษฎิ์ ไปร่วมงาน พร้อมเสนอเงื่อนไขว่า หากจะเปลี่ยนพรรค ควรเลือกพรรคที่มีฐานในพื้นที่ชลบุรีด้วยกัน เพื่อไม่ให้ถูกมองเป็น "งูเห่า" โดยเฉพาะในสายตาชาวบ้านใหญ่ในพื้นที่
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายยอดชาย พึ่งพร สส.เขต 9 (พัทยา–หนองปรือ) พรรคประชาชน กล่าวบนเวทีหาเสียงช่วยผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งเสนอเงินกว่า 55 ล้านบาท พร้อมเงินเดือนพิเศษเดือนละ 250,000 บาท และรถตู้หรู 1 คัน เพื่อดึงตัวไปร่วมพรรค สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจทำลายความน่าเชื่อถือของ ส.ส.พรรคประชาชนในพื้นที่
ภายในพรรคประชาชนโซนตะวันออก ขณะนี้มีรายงานว่าสถานการณ์ค่อนข้างระส่ำ โดยเฉพาะใน จ.ชลบุรี ซึ่งมี สส.ถึง 7 คน จากทั้งหมด 10 เขต และเริ่มมี สส.อีก 2-3 รายแสดงท่าทีสนใจย้ายไปร่วมงานกับพรรคอื่นเช่นกัน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การปรับ ครม.ในช่วงกลางปีนี้
รายงานข่าวระบุอีกว่า นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี เขต 8 ซึ่งอยู่กับพรรคประชาชนมาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ประกาศจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งในสมัยหน้า โดยให้เหตุผลว่า อิ่มตัวทางการเมือง ส่วน นายยอดชาย ยังคงยืนยันว่าจะอยู่กับพรรคประชาชนต่อไป
แหล่งข่าวในพรรคประชาชน ชี้ว่า สถานการณ์ขณะนี้เสมือนเป็น "แผนรุมกินโต๊ะ" ของพรรคฝ่ายรัฐบาล เพื่อดึง สส.จากพรรคประชาชนไปเสริมเสียงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ที่พรรคประชาชนเคยกวาดมาได้ถึง 17 จาก 29 ที่นั่ง ได้แก่ ฉะเชิงเทรา 1 ที่นั่ง, ชลบุรี 7 ที่นั่ง, ระยอง 5 ที่นั่ง, จันทบุรี 3 ที่นั่ง และตราด 1 ที่นั่ง
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดไฟเขียวให้พรรครวมไทยสร้างชาติและ กล้าธรรม จับมือกันแบ่งพื้นที่ในชลบุรี พร้อมประสานงานกับบ้านใหญ่ประชาธิปัตย์ เพื่อเจาะพื้นที่ระยอง ส่วนพรรคเพื่อไทยจะหันเป้าไปชิง จ.สมุทรปราการ ซึ่งพรรคประชาชนเคยชนะยกจังหวัดเช่นกัน