วันที่ 17 เมษายน 2568 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ258/2564 และหมายเลขแดงที่ อ1148/2566 ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกราช ช่างเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 4 จังหวัดขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลยในข้อหา ร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ และร่วมกันใช้เอกสารปลอม กรณีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น
นายเอกราช เดินทางมาศาลพร้อมทีมทนายความ โดยมีสีหน้าปกติและกล่าวทักทายกับสื่อมวลชนก่อนขึ้นศาลไปยังห้องพิจารณาคดีที่บัลลังก์ 6 ชั้น 3 ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล ขณะเดียวกัน ฝ่ายโจทก์ ได้แก่ พนักงานอัยการ ทีมทนายความ และผู้แทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ก็เดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วยเช่นกัน
ภายหลังศาลใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการอ่านคำพิพากษา ได้มีคำตัดสินว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และ 268
ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ จำนวน 5 กระทง โทษจำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 15 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ กระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวม 5 ปี 30 เดือน
ฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร จำนวน 21 กระทง โทษจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 10 ปี 6 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ กระทงละ 3 เดือน รวม 63 เดือน
รวมโทษจำคุกทั้งหมด 5 ปี 93 เดือน หรือเทียบเท่า 13 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
ขณะที่คดีนี้เกี่ยวข้องกับความเสียหายรวมกว่า 405 ล้านบาท ศาลพิจารณาแล้วพบว่า จำเลยได้เริ่มทยอยชำระเงินคืนเพื่อบรรเทาผลกระทบบางส่วนแล้ว ได้แก่
วันที่ 19 ต.ค. 2565 ชำระ 10.5 ล้านบาท
วันที่ 27 ธ.ค. 2565 ชำระ 40 ล้านบาท
วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ชำระ 10 ล้านบาท
วันที่ 26 มี.ค. 2567 ชำระ 40 ล้านบาท
ศาลมีคำสั่งให้นำยอดเงินดังกล่าวไปหักลดยอดเงินต้น พร้อมให้จำเลยชำระส่วนที่เหลือจนครบตามจำนวน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้จำเลยเคยถูกพิจารณาออกหมายจับ เนื่องจากขาดนัดฟังคำพิพากษา โดยอ้างว่าป่วย แต่กลับพบว่า มีการปรากฏตัวในกิจกรรมรัฐสภาและลงพื้นที่กับคณะรัฐมนตรี ศาลจึงมีคำสั่งยกคำร้องออกหมายจับ แต่กำชับให้จำเลยต้องมาศาลตามนัดหมายอย่างเคร่งครัด
ภายหลังคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลได้ควบคุมตัว นายเอกราช ช่างเหลา ไปยังห้องคุมขังทันที ขณะที่ทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
โดยศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีคำสั่งพิจารณาให้ประกันตัว นายเอกราช หลังทีมทนายความได้ยื่นขอประกันตัวด้วยเงินสด 3 ล้านบาท โดยมีคำสั่งห้ามเจ้าตัวเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล แจ้งกองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) เพื่อทราบ