นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่านายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มอบนโยบายในที่ประชุมสภากลาโหม ถึงเรื่องสงครามและภัยคุกคามของโลกรูปแบบใหม่ โดยมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการโจมตีหรือเข้าล้วงความลับของหน่วยงานความมั่นคงในหลากหลายประเทศทั่วโลก
โดยกระทรวงกลาโหม ได้ให้กองบัญชาการกองทัพไทยดำเนินการตั้งศูนย์การต่อสู้โดยให้ยกระดับขีดความสามารถในการทำสงครามไซเบอร์ ให้จัดตั้งเป็นระดับกองบัญชาการไซเบอร์ทหารอย่างเร่งด่วนโดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้
โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง ระบุว่า การจัดตั้งศูนย์บัญชาการไซเบอร์ครั้งนี้จะเป็นการรวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยกองทัพบก จะดำเนินการปรับโครงสร้างหน่วยไซเบอร์ภายใต้หน่วยปฏิบัติการดิจิตอลของเข้าด้วยกัน ส่วนกองทัพเรือจะมีการปรับเพิ่มกองสงครามอิเล็กทรอนิกส์ศูนย์ไซเบอร์กองทัพเรือ ด้านกองทัพอากาศจะปรับย้ายกองสงครามเครือข่ายไปอยู่ภายใต้ศูนย์ไซเบอร์กองทัพอากาศและปรับศูนย์ไซเบอร์กองทัพอากาศไปอยู่ภายใต้กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทหารอากาศ
กองบัญชาการกองทัพไทยได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมด้านไซเบอร์ในประเทศชั้นนำ มีประสบการณ์เคยถูกโจมตีเรื่องไซเบอร์ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถของกองบัญชาการกองทัพไทยโดยมีเป้าหมายหลักให้เป็นศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และเพื่อการพัฒนาบุคลากรทางไซเบอร์ของประเทศไทย โดยร่วมมือกับทุก หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา และเอกชนรวมทั้งหน่วยงานความมั่นคงต่างๆของประเทศไทย โดยมีเป้าหมาย เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความชำนาญในด้านนี้ปีละประมาณ 300-500 นาย
นอกจากนี้ยังเตรียมการจัดตั้ง"โรงเรียนไซเบอร์ทหาร"เพื่อเป็นหน่วย สายวิทยาการด้านไซเบอร์และเป็นแหล่งผลิตบุคลากรด้านไซเบอร์ให้กับกองทัพและหน่วยงานภายนอก เพื่อรับมือกับสถานการณ์โลกที่ปัจจุบันมีการโจมตีด้วยเทคโนโลยีไซเบอร์เป็นจำนวนมาก
ทั้งการโจมตีในรูปแบบการเข้าไปควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ การเข้าไปทำลายฐานข้อมูลต่างๆทางด้านความมั่นคงซึ่งกระทรวงกลาโหม ตระหนัก ถึงภัยสงครามรูปแบบใหม่ที่ ประเทศไทยจะต้องเร่งปฏิบัติการให้สอดรับกับสถานการณ์โลกในภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยปลอดภัย