เอฟเฟ็กต์ทัวร์ต่างประเทศ สส.-ข้าราชการทำเนียบ โวย เศรษฐาดองงาน 200 เรื่อง

30 มี.ค. 2567 | 02:45 น.

สส.พรรคร่วมรัฐบาล-ข้าราชการทำเนียบฯ โวย เศรษฐา ดองงาน-ร้องทุกข์ชาวบ้าน 200 เรื่อง สังศิต-สว. ติง เดินทางไปต่างประเทศมากไป แนะ นั่งนิ่งๆ คิดเรื่องใหญ่ ทำน้อย-ได้มาก

วันนี้ (30 มีนาคม 2467) แหล่งข่าวจาก สส.พรรคร่วมรัฐบาลเปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดกระแสความไม่พอใจของ สส.พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หลังจากเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนที่สะท้อนกลับมาจากสส.ในพื้นที่ที่ส่งต่อไปยังรัฐบาลให้แก้ปัญหากว่า 200 เรื่อง ไม่ได้รับการตอบกลับมา เนื่องจากต้องรอนายกรัฐมนตรีเซ็นลงนามก่อนเพื่อนำกลับไปยังรัฐสภาส่งผลให้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไข ยิ่งใกล้ปิดสมัยประชุมสภาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนนี้เป็นต้นไป สส.ไม่สามารถตอบคำถามประชาชนในพื้นที่ได้ อย่างไรก็ดีที่ยังมีคำตอบว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทจะสามารถแจกได้ภายในไตรมาสสี่ปีนี้   

แหล่งข่าวข้าราชการในทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยสอดคล้องตรงกันว่า แฟ้มเอกสารต่าง ๆ ที่หน่วยงานในสังกัดขึ้นตรงสำนักนายกรัฐมนตรีที่ส่งขึ้นไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ยังไม่มีการลงนามกลับมาเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้งานหลายเรื่องไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ตั้งแต่นายเศรษฐาเดินทางไปต่างประเทศและลงพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่นายเศรษฐาเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตลอดระยะเวลา 6 เดือน 14 ประเทศ 1 เขตบริหารพิเศษ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา กัมพูชา จีน บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ซาอุดีอาระเบีย สปป.ลาว ญี่ปุ่น สวิส ศรีลังกา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี เขตบริหารพิเศษฮ่องกง รวมถึงการใช้เวลาส่วนใหญ่ในประเทศเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง 

นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า อยากจะฝากไปถึงรัฐบาล ทำงานให้น้อยหน่อย แต่ทำงานให้เห็นผลมากหน่อย ซึ่งคิดว่า นายเศรษฐาเดินทางไปต่างประเทศมากไป กลับมาก็ยังเดินทางไปต่างจังหวัด ถ้าไม่นั่งนิ่ง ๆ บ้าง และใช้เวลาคิด มนุษย์จะคิดออกก็ต่อเมื่ออยู่ในความเงียบ ความสงบ มีสมาธิ ถึงจะคิดอะไรดีๆ ออก 

“ต้องมีสมาธิบ้างและคิดเรื่องใหญ่ๆ ให้เกิดผลกับประเทศโดยรวม ต้องการเวลา สมาธิและการถกเถียงกันมาก ๆ และทำให้เกิดผล ไม่จำเป็นต้องทำมากเรื่อง ทำน้อยเรื่องก็ได้ แต่เรื่องนั้นต้องมีผลกระทบทั่วทั้งสังคม ให้คนรู้สึกว่า ทุกคนได้ประโยชน์ ต้องทำให้คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์”นายสังศิตกล่าว